“…เรื่องการวิพากษ์วิจารณ์นี้ พระพุทธศาสนาของเราเปิดกว้างอยู่แล้ว เรียกว่าชาวพุทธน่ะใจกว้าง… ใจกว้างนี้คนละอย่างกับไม่เอาเรื่อง ถ้าไม่เอาเรื่องราว ปล่อยปละละเลย ก็กลายเป็นประมาท พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้แล้วว่า เมื่อมีการเห็นผิดเข้าใจผิดมีการกล่าววาทะที่ทำให้เข้าใจผิดพลาด ก็ต้องชี้แจงให้รู้เข้าใจตามเป็นจริง..
“…ข้อมูลนั้นเป็นฐานสำคัญ ข้อมูลจะต้องถูกต้องแม่นยำชัดเจนเพียงพอ ถ้าข้อมูลพลาดเสียแล้ว การวิเคราะห์ วิจารณ์ ตีความ สันนิษฐานก็ผิดหมด เหลวเลยไม่ได้ความหมาย… เหมือนอย่างว่าเขาพูดเรื่องแมว แล้วตัวเองจับเอาเป็นเรื่องเสือ… หรือเขาพูดเรื่องมะนาวตัวเองไปฟังเป็นมะพร้าว แล้วจะเอาไปวิเคราะห์วิจารณ์สันนิษฐานอย่างไรมันก็ไปคนละเรื่อง…
“… บทความของเมตตานั้น เป็นกรณีตัวอย่างที่มีความผิดพลาดเพียงแค่ในขั้นหลักฐานข้อมูลง่ายๆ พื้นๆ ได้ถูกยกชูให้ดูเหมือนเป็นเรื่องมีเนื้อหาสาระ โดยอาศัยความตื่นป้ายวิชาการ ซึ่งเป็นการอำพรางที่ทำให้เรื่องซึ่งไม่เป็นปัญหากลายเป็นปัญหาต่อพระพุทธศาสนา และก่อความสับสนโดยใช่เหตุ…”
เรียบเรียงมาจาก กรณีเงื่อนงำ: พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วยโรคอะไร? ฉบับเต็ม (ประมาณ 200 หน้า)
สารบัญ
- คำชี้แจง (ตัดตอน)
- กรณีเงื่อนงำ: พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วยโรคอะไร? (ฉบับตัดสั้น)
- ถ้าข้อมูลผิด ก็ตีความ วิจารณ์ สันนิษฐานพลาดไปหมด
- ฝรั่งแม้จะเน้นข้อมูลที่แม่นยำ ก็ยังพลาดเยอะ
- การปรินิพพานของพระพุทธเจ้า ท่านเล่าไว้ในพระไตรปิฎกมากมายหลายแห่ง
- ปรินิพพานด้วยโรคอะไร หลักฐานลงกันยันกลับ ให้ต้องสันนิษฐานใหม่
- มหาปรินิพพานสูตรมีลักษณะพิเศษแท้อยู่ที่ไหน
- รู้แล้วยิ่งมั่นใจและยิ่งเลื่อมใสว่า ท่านรักษาพระธรรมวินัย ไว้กับพระไตรปิฎกได้อย่างอัศจรรย์
- ๑. เรื่องว่าพระพุทธเจ้าปรินิพพานในเมือง ไม่ใช่ในสวนป่า
- ๒. เรื่องว่าในกุสินาราฤดูหนาว ต้นสาละใบร่วงหมดแล้ว
- ๓. เรื่องว่าพระพุทธเจ้าลุกนั่งไม่ไหว ต้องถูกหามขึ้นแคร่ไป
- ๔. เรื่องว่าพระพุทธเจ้าอวดว่าทรงอยู่ได้ถึงสิ้นโลก
- จริยธรรมของนักวิชาการไทย อยู่ที่ไหน
- ใฝ่รู้จริง รักความจริง ชื่อตรงต่อความจริง นักวิชาการไทยจะสร้างปัญญาให้แก่สังคมได้
No Comments
Comments are closed.