๑. การผูกสีมา ตามพระวินัย

11 มกราคม 2543
เป็นตอนที่ 5 จาก 8 ตอนของ

เมืองไทยหนุนพระวินัย
ด้วยประเพณี “พระราชทานวิสุงคามสีมา”

ทีนี้ก็ไปเรื่อง วิสุงคามสีมา เนื่องจากว่าตอนนี้สงฆ์จะผูกสีมาเป็นเขตของตัวเอง เขตนี้ต้องได้รับอนุญาตจากบ้านเมือง หมายความว่าบ้านเมืองอยู่ในปกครองของเขา ไม่ใช่เอาที่ไหนเป็นของตัวได้ตามชอบใจ ก็เลยมีประเพณีในเมืองไทย ซึ่งพระเจ้าแผ่นดินอุปถัมภ์พระศาสนาพระราชทานให้ เรียกว่า พระราชทานวิสุงคามสีมา

วิสุงคามสีมา แปลว่า เขต (ของสงฆ์) ที่แยกจากบ้าน หมายความว่าแยกจากเขตของบ้านเมือง กล่าวคือ พระเจ้าแผ่นดินในฐานะเป็นองค์อุปถัมภ์พระศาสนา ทรงมีพระราชประสงค์จะให้สงฆ์สบายใจว่ามีเขตของท่านเอง จะได้ทำกิจกรรมของท่านเป็นอิสระ ก็พระราชทานที่ดินเขตนั้นๆ มา เรียกว่า วิสุงคามสีมา เป็นอันว่ามีประเพณีพระราชทานวิสุงคามสีมาในประเทศไทย

ถาม: ประเทศอื่นเป็นอย่างไร

พระธรรมปิฎก: ประเทศอื่นไม่ทราบว่าเขามีประเพณีนี้หรือไม่ ยังไม่ได้หารายละเอียด ถ้าถามว่าไปอยู่อเมริกาพระทำอย่างไร พระก็ถือเอาเขตที่ได้ซื้อที่ดินมาสร้างวัด และทางการออกโฉนดให้ ก็ถือว่านี่เป็นที่ที่เป็นเขตของเรา ที่เรามีสิทธิ์จะจัดการได้ ในเมืองไทยโบราณชาวบ้านมากมายอยู่กันมา มีที่โดยไม่มีโฉนด ความจำเป็นของพระเกิดก่อนชาวบ้าน เพราะต้องมีการกำหนด เขตแยกไว้ให้ชัด แต่เดี๋ยวนี้ชาวบ้านก็กำหนดแล้ว ส่วนของพระมีมาเดิมก็คือบ้านเมืองพระราชทานวิสุงคามสีมา แปลว่าได้เขตแยกจากบ้าน

พอได้เขตแยกจากบ้านก็เป็นเขตของสงฆ์ พระก็เอาที่นี้มากำหนดผูกสีมาได้เพื่อให้เป็นพัทธสีมา เพราะฉะนั้นพัทธสีมาก็จึงต้องอิงอาศัยวิสุงคามสีมา เราจึงต้องรอพระราชทานวิสุงคามสีมาก่อน

ตอนนี้วัดญาณเวศกวันได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเรียบร้อยแล้ว ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๒ เมื่อได้อันนี้มาแล้ว เราก็เอาที่นี้มาใช้ แต่จะผูกแค่ไหนภายในเขตนี้ ก็แล้วแต่เรา

ถาม: เวลาในหลวงท่านพระราชทานมานี่ พระราชทานตามเนื้อที่ของบริเวณวัด หรือเนื้อที่ของบริเวณโบสถ์

พระธรรมปิฎก: เดี๋ยวนี้ก็เอาแค่บริเวณที่ตั้งโบสถ์ มิฉะนั้นคงจะกินที่ของบ้านเมืองมากมาย เพราะเดี๋ยวนี้วัดเยอะเหลือเกิน จึงมีประมาณกันว่าไม่เกินเท่านั้นๆ แล้วทางบ้านเมืองก็ประกาศถวายให้เป็นวิสุงคามสีมา เมื่อได้รับแล้วก็มากำหนดพัทธสีมากันขึ้น แต่ความจริงนั้น ตอนนี้เหมือนกับว่าเรามีสีมาที่ไม่ต้องผูก ซึ่งเป็นเขตที่กำหนดได้ง่าย ไม่ต้องเอาทั้งตำบล ทั้งอำเภอ เพราะถึงแม้ถ้าเราไม่ผูก ตอนนี้เราก็มีวิสุงคามสีมา เท่ากับมีเขตที่กำหนดแยกจากบ้านเมืองแล้ว

มีเกร็ดแทรกเข้ามาว่า เรื่องนี้ในสมัยโบราณถือกันจริงจัง และให้ความสำคัญมาก ใครเข้าไปอยู่ในเขตนี้แล้วเป็นอันพ้นภัยราชการเลย แม้ว่าพระเจ้าแผ่นดินมีอำนาจทั้งแผ่นดิน แต่เขตนี้ยกให้สงฆ์แล้ว พระองค์ก็ไม่เข้ามารุกล้ำ เพราะฉะนั้นสมเด็จโตเมื่อถูกในหลวงรัชกาลที่ ๔ ขับไล่ ท่านก็ไปอยู่ในโบสถ์ แล้วก็บอกว่าท่านพ้นเขตพระราชอำนาจของรัชกาลที่ ๔ แล้ว อย่างที่เอามาเล่ากันเป็นเรื่องสนุกๆ เป็นเกร็ด

เมื่อครั้งที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราชประชวรหนัก ใกล้จะสวรรคต พระเพทราชากับขุนหลวงสรศักดิ์ยกทหารมาล้อมวัง ถ้าพระนารายณ์มหาราชสวรรคตเมื่อไร พวกขุนนางทั้งหลาย ที่พระเพทราชากับพระเจ้าเสือไม่พอใจ ก็คงจะถูกจับฆ่า ตอนที่สมเด็จพระนารายณ์อยู่เขายังทำอะไรไม่ได้ แต่ตอนนี้ประชวรหนักจะสิ้นแล้ว เมื่อเขาเอาทหารล้อมวังก็ไม่มีทางไป แม้ว่าพระนารายณ์จะยังมีอำนาจอยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ไหว

พระองค์ทรงสงสารพวกขุนนางข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่จะต้องสิ้นชีวิต ก็เลยให้คนของพระองค์ไปนิมนต์สมเด็จพระสังฆราชมา พร้อมทั้งพระสงฆ์ให้ครบทำสังฆกรรมได้ พอพระสงฆ์มาที่วัง สมเด็จพระนารายณ์มหาราชก็ทรงประกาศยกวังถวายเป็นของสงฆ์

เมื่อเป็นสีมาของสงฆ์แล้ว พระสงฆ์ก็ทำสังฆกรรมได้ จึงใช้วังเป็นเหมือนโบสถ์ สมเด็จพระสังฆราชก็นำพระสงฆ์ประกอบสังฆกรรมบวชพวกเจ้านายข้าราชการผู้ใหญ่ที่รู้อยู่ว่าอาจจะต้องถูกจับหรือถูกฆ่า พอบวชเสร็จแล้วก็พาไปวัด เพราะเมื่อเป็นพระแล้วพวกทหารฝ่ายที่จะกำจัดก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นอันว่าพระสงฆ์พาพระบวชใหม่นั้นไปวัด ก็เลยช่วยพวกข้าราชการและเจ้านายเหล่านั้นไว้ได้

นี่เป็นตัวอย่างเรื่องที่แสดงความสำคัญของสีมา ซึ่งประเพณีไทยได้ถือเป็นจริงจังว่า ใครไปอยู่ในเขตสงฆ์ก็เป็นอันพ้นภัยแผ่นดิน แม้แต่องค์ราชาก็ยังไม่ทำอะไร ที่เล่ามานี้เป็นเพียงเรื่องแทรก ตอนนี้ก็คิดว่าจบเรื่องวิสุงคามสีมา

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ฝังลูกนิมิต-ผูกสีมา วัดญาณเวศกวัน๒. งานผูกสีมา ตามวัฒนธรรมไทย >>

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8

No Comments

Comments are closed.