มาอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า ก็ลืมตาของเราออกดู

16 มีนาคม 2536
เป็นตอนที่ 17 จาก 17 ตอนของ

มาอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า
ก็ลืมตาของเราออกดู

วันนี้ ที่จริงนั้นไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะมากล่าวธรรมกถากับญาติโยม เพราะว่าเพียงแต่จะมาเพื่อได้ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ เดิมนั้นท่านผู้จัดเตรียมงานก็นิมนต์จะให้มาแสดงธรรมเหมือนกัน แต่รายการนั้นล้มเลิกไปแล้ว การมาคราวนี้ที่จริงๆ นั้น มาเพื่อจะร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างเดียว แต่พอดีว่าไม่มีเครื่องบินที่จะกลับได้ทัน ก็เลยว่าจะกลับพรุ่งนี้ มีเวลาอยู่ถึงคืนนี้ ท่านก็คงคิดทำนองว่า ไหนๆ มาแล้ว มีเวลาก็พูดกับญาติโยมหน่อย ฉะนั้นวันนี้จึงถือว่าขึ้นมาพูดทักทายกะญาติโยม ได้มาปราศัยพูดจากันบ้าง ก็อย่าให้ถือเป็นเรื่องสลักสำคัญอะไร เพียงเป็นเครื่องเตือนจิตเตือนใจ และเป็นสัมโมทนียกถาแก่ญาติโยมทั้งหลายเท่านั้น

เวลาบัดนี้ก็ล่วงเลยไปมากแล้ว เพราะฉะนั้นก็ควรจะได้มีโอกาสเตรียมตัวสำหรับตอนพิธีเกี่ยวกับการที่จะประชุมเพลิง เผาสรีระของหลวงปู่ชาท่านในขั้นสุดท้ายต่อไป ขออนุโมทนา ท่านพระเถรานุเถระ สพรหมจารีทั้งหลาย พร้อมทั้งญาติโยมสาธุชน อุบาสกอุบาสิกาทุกท่าน ที่ได้มาร่วมพิธีนี้ และดังที่กล่าวแล้วว่า ได้มาบำเพ็ญการบูชาด้วยการปฏิบัติ ก็ขอให้การปฏิบัติที่เป็นการบูชาอันถูกต้องดำเนินสืบต่อไป ด้วยการที่เราทั้งหลายระลึกถึงคำสอนคำเตือนของท่านที่ให้ไว้ และนำไปใช้ประโยชน์ให้เป็นการถือประทีปนำทางสืบต่อไป และเอาคำสอนของท่านนั้นเป็นเครื่องโยงตัวเราไปหาพระพุทธเจ้า เพราะโดยแท้จริงในขั้นสุดท้ายแล้ว พระอาจารย์ทั้งหลายเป็นผู้ที่เอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาถ่ายทอดให้พวกเรา เป็นผู้ที่โยงเราเข้าไปหาพระพุทธเจ้า หรือว่านำเราไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ท่านอุตส่าห์บอกทางที่จะไปเฝ้าพระพุทธเจ้า หรือมาจูงเราเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า

เราไปเฝ้าพระพุทธเจ้า บางคนไปถึงแล้ว ไปอยู่ต่อพระพักตร์ของพระพุทธเจ้าแล้วหลับตาเสียนี่ ไม่ลืมตามอง เลยไม่เห็นพระพุทธเจ้า เข้าเฝ้าแล้วไม่ได้พบพระพุทธเจ้า หรือว่าอย่างน้อยท่านบอกทางเดินให้ไปเฝ้าพระพุทธเจ้า แต่เราไม่เดินไปตามทางที่ท่านบอก ไม่ได้ใช้คำพูดของท่านให้เป็นประโยชน์ ก็ไม่ได้ผลอะไร เพราะฉะนั้นเมื่อท่านมาทำหน้าที่ที่บอกทางหรือจูงเราเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าแล้ว ก็ขอให้เราได้เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้าให้จริงจัง เฝ้าพระพุทธเจ้าจริงก็คือได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระองค์ ดังที่อาตมภาพได้กล่าวมา

วันนี้คิดว่าจะพูดสักเล็กๆ น้อยๆ พูดไปพูดมาก็ชักจะยืดยาว เดี๋ยวจะเกินเวลาอันสมควร จึงขออนุโมทนาอีกครั้งหนึ่ง ขอทุกท่านจงประสบความสุขสวัสดิ์โดยทั่วกัน และขอกุศลที่ทุกท่านได้บำเพ็ญในโอกาสนี้ อันเป็นการบูชาทั้งในส่วนอามิส และในส่วนการปฏิบัติ จงเป็นปัจจัยอันมีกำลังนำมาซึ่งความสุขความเจริญ ความร่มเย็นเป็นสุขแก่ทุกท่านโดยทั่วกัน ตลอดกาลนาน เทอญ

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ถ้าจะกตัญญู ก็ต้องบูชาด้วยการปฏิบัติ

No Comments

Comments are closed.