โมทนพจน์

21 ธันวาคม 2545
เป็นตอนที่ 4 จาก 4 ตอนของ

โมทนพจน์

เมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๓ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติปรารภสถานการณ์ทั้งของประเทศไทยและของโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยปัญหาวิกฤติต่างๆ มีความขัดแย้ง เกิดความรุนแรงและความวุ่นวายไม่เป็นปกติสุขนานัปการ ได้ขอให้อาตมภาพเขียนบทความเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ทางสังคมและทางออก เพื่อนำเสนอแก่ที่ประชุมและพิมพ์เผยแพร่แก่ประชาชน เป็นการจุดประกายในการแก้ปัญหาให้สัมฤทธิผลที่จะนำพาประเทศก้าวสู่ศานติสุขต่อไป

สืบเนื่องจากกุศลเจตนาของสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติข้างต้น จึงได้เกิดบทความชื่อ “รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย” ขึ้นเมื่อกลางปี ๒๕๔๔ ซึ่งตีพิมพ์เป็นเล่มหนังสือตามวัตถุประสงค์ของคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติในบัดนี้

อนึ่ง ระหว่างที่อาตมภาพเขียนบทความนั้นเสร็จแล้ว จนถึงเวลาก่อนที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติจะตีพิมพ์เป็นเล่มหนังสือครั้งนี้ ซึ่งมีเวลาเป็นช่วงว่างประมาณปีครึ่ง ได้มีองค์กรที่ขออนุญาตตีพิมพ์บทความนี้เป็นหนังสือธรรมทานเผยแพร่ไปแล้ว ๓ ครั้ง คือ

๑. พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๗ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย

๒. วัดไทยแห่งหนึ่งในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา พิมพ์แจกในโอกาสเปิดวัด

๓. สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา พิมพ์ครั้งล่าสุดเมื่อขึ้นปี ๒๕๔๖

บางท่านเมื่อได้ยินชื่อหนังสือ รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย เล่มนี้ ก็นึกโยงไปถึงหนังสือของผู้เรียบเรียงเล่มหนึ่งซึ่งเคยตีพิมพ์หลายครั้งในอดีต ที่ชื่อว่า มองอเมริกา มาแก้ปัญหาไทย โดยมองว่าอาจจะเป็นเรื่องสืบเนื่องหรือต่อกัน แต่ที่จริงเป็นเรื่องต่างหากกัน

มองอเมริกา มาแก้ปัญหาไทย เป็นหนังสือที่เกิดจากคำบรรยายในวันคล้ายวันสถาปนาคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครบ ๒๕ ปี เมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๒๕ และลงพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ ฉบับเดือนตุลาคม – ธันวาคม ๒๕๒๕ คือเกือบเต็ม ๒๐ ปี ก่อนหนังสือ รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย เล่มนี้เกิดขึ้น

หนังสือสองเล่มนี้ นอกจากชื่อที่มีส่วนคล้ายกันและพูดหรือเขียนโดยผู้เรียบเรียงเดียวกันแล้ว ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันอีก ถ้าจะถือว่าสืบเนื่องกัน ก็โดยแนวคิดที่เป็นต้นกำเนิด ในแง่ส่วนตัวที่ว่าเมื่อเราไปเกี่ยวข้องกับสิ่งใด ก็ควรรู้เข้าใจสิ่งนั้นให้ชัดเจน และในวงกว้างระดับสังคมที่ว่า สังคมใดมีอิทธิพลส่งผลกระทบต่อชีวิต ต่อสังคมไทยของเรา และต่อชะตากรรมของโลก เราควรศึกษาให้รู้ชัด โดยเฉพาะอเมริกาเป็นชนชาติ เป็นประเทศ และเป็นสังคมที่มีกำลังอำนาจทั้งทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน และคนไทยก็มีค่านิยมเลียนแบบวิถีชีวิตอย่างอเมริกันนั้นด้วย จึงควรจะรู้จักอเมริกาให้แจ่มแจ้งลงไปถึงเนื้อในและภูมิหลัง พร้อมกับที่รู้จักสังคมไทยของเราเอง

หนังสือ มองอเมริกา มาแก้ปัญหาไทย พูดถึงสังคมอเมริกัน โดยเน้นที่สภาพปัจจุบันเพียงเพื่อให้มองเห็นชัดลงไปถึงวิถีชีวิตและแนวทางของสังคม ไม่ติดอยู่แต่ภาพความเจริญที่ปรากฏแก่สายตาซึ่งมองอย่างฉาบฉวยผิวเผิน พร้อมทั้งคติที่ผู้ศึกษาควรได้ประโยชน์ แต่หนังสือ รู้จักอเมริกา หันมาดูศักยภาพของไทย เน้นการมองให้เห็นภูมิหลังและความเป็นมาที่ทำให้อเมริกามีสภาพอย่างที่เป็นในปัจจุบัน โดยย้ำจุดต่างจากสังคมไทย ที่คนไทยควรรู้ตระหนักในใจ ทั้งนี้มีสาระและความมุ่งหมายที่ได้กล่าวไว้ในต้นเล่มหนังสือแล้ว ตั้งแต่บทนำเป็นต้นไป

ในการพิมพ์เผยแพร่ครั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้แจ้งด้วยว่าจะเป็นการจำหน่ายแก่สาธารณชน ซึ่งในกรณีที่มีผลประโยชน์เกิดขึ้น ทางกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ จะนำรายได้เข้าสมทบกองกองทุนส่งเสริมงานวัฒนธรรม เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานวัฒนธรรมของชาติต่อไป อาตมภาพขออนุโมทนาด้วย เพราะเป็นการได้ประโยชน์พิเศษอีกขั้นหนึ่ง เพิ่มจากประโยชน์หลักที่เป็นความมุ่งหมาย คือเพื่อเป็นเครื่องเจริญธรรม เจริญปัญญา ให้คนไทยช่วยกันพัฒนาคุณภาพของสังคมสู่ความพร้อมที่จะเป็นส่วนร่วมสร้างสรรค์อารยธรรมแท้ ที่จะนำโลกให้เข้าถึงสันติสุขอย่างยั่งยืนสืบไป

พระธรรมปิฎก
๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๕

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< หันมาดูศักยภาพของไทย

No Comments

Comments are closed.