- (กล่าวนำ)
- ปฏิบัติก็ดี สอนก็เด่น
- ไม่ยอมให้มืด ให้แต่ดวงประทีป
- สังเวช คือ ได้เครื่องกระตุ้นเสริมแรง
- การบูชาที่มีผลยั่งยืน
- พระพุทธเจ้าและครูอาจารย์เป็นกัลยาณมิตรของเรา
- กัลยาณมิตรช่วยเราได้แค่ไหน
- ท่านช่วยแล้ว ทำไมเราต้องทำเองด้วย
- พึ่งตนคือพึ่งธรรม
- ทำถูกธรรม ไม่ต้องขอ ผลก็เกิดเอง
- ถ้าช่วยถูก คนถูกช่วยก็เก่งขึ้นด้วย
- น่ารัก น่าเคารพ น่าทำตาม
- คอยสอน ทนให้ซัก ชักนำให้ยิ่งดี
- ท่านช่วยเราดีที่สุด คือช่วยให้เราทำเองได้
- ระลึกถึงพระพุทธเจ้าถูก ความสามารถของเราก็เป็นประโยชน์
- ถ้าจะกตัญญู ก็ต้องบูชาด้วยการปฏิบัติ
- มาอยู่ต่อหน้าพระพุทธเจ้า ก็ลืมตาของเราออกดู
การบูชาที่มีผลยั่งยืน
กรณีของหลวงปู่ชานี้ ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งเป็นที่ตั้งแห่งความสังเวช ซึ่งพุทธศาสนิกชนจะต้องระลึกให้ถูกต้อง เพื่อปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ขึ้นแก่ชีวิต นี้คือการเป็นเครื่องเตือนใจเรา ให้ระลึกถึงความจริง ความเป็นไปตามธรรมดาของชีวิตของสังขารทั้งหลาย แล้วหันมาเร่งรัดทำสิ่งที่ดีงาม สิ่งที่เป็นกุศลต่อไป โดยเฉพาะถ้าเราระลึกถึงใคร เราก็เอาธรรมของผู้นั้นมาเป็นจุดรวมใจในความระลึกถึง
ท่านผู้เป็นพระเถระผู้ใหญ่ เป็นครู เป็นอาจารย์ ท่านมีคำสอนที่ดีงามไว้เป็นอันมาก เมื่อเราระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญเกี่ยวกับชีวิตของท่าน ระลึกถึงการถึงมรณภาพของท่านแล้ว ก็เตือนใจเราว่าจะต้องรีบเอาคำสอนของท่านนั้น มาประพฤติปฏิบัติกันต่อไป เราทำได้อย่างนี้ก็เรียกว่า เกิดผลจากการปฏิบัติอย่างแท้จริง และนี่ก็จะเป็นการบูชาท่าน ซึ่งเป็นการบูชาที่ทำได้ต่อเนื่องเรื่อยไป ไม่ใช่มาบูชาได้เฉพาะในวันนี้ เอาดอกไม้จันทน์มาร่วมในพิธีพระราชทานเพลิงศพท่าน หรือมากราบมาไหว้ แต่ถ้าท่านบูชาด้วยการระลึกถึงเกี่ยวกับมรณภาพของหลวงปู่ หรือระลึกถึงประวัติชีวิตของท่าน แล้วเตือนใจให้ระลึกถึงคำสอนของท่าน แล้วนำมาประพฤติปฏิบัติ การระลึกถึงอย่างนี้จะทำได้เสมอ ทำได้ตลอดไป และจะเป็นประโยชน์แก่ชีวิตแท้จริง เป็นการบูชาที่เราบูชาได้ทุกขณะและตลอดกาลเรื่อยไปชั่วชีวิตของเรา อันนี้จะเป็นการบูชาที่มีผลยั่งยืน เป็นประโยชน์อย่างแท้จริง
No Comments
Comments are closed.