(กล่าวนำ)

1 กันยายน 2537
เป็นตอนที่ 1 จาก 16 ตอนของ

เจาะหาความจริง
เรื่อง ศาสนาประจำชาติ1

ขอเจริญพร ท่านนายกพุทธสมาคมแห่งประเทศไทย

ผู้นำชาวพุทธ ผู้รับผิดชอบต่อพระพุทธศาสนา และต่อสังคมไทย ทุกท่าน

วันนี้ เป็นวันอันน่าปลื้มใจ ที่มีผู้นำชาวพุทธจำนวนมากมายมาประชุมอย่างพร้อมเพรียงกัน

การที่ผู้นำชาวพุทธจะมีความพร้อมเพรียงกันอย่างนี้ นับว่าเป็นโอกาสที่หายากนัก

ในตอนเริ่มต้น ขณะฟังท่านผู้แนะนำ อาตมภาพถือโอกาสมองกวาดสายตาไปดูทั่วๆ แล้วก็รู้สึกว่า การประชุมนี้เป็นครั้งที่มีผู้มาร่วมประชุมคับคั่งเป็นพิเศษ เรียกว่าเต็มทีเดียว

จึงเป็นเรื่องที่น่าอนุโมทนาที่ว่า เมื่อมีกิจกรรมของส่วนรวมเกิดขึ้น ชาวพุทธยังเอาใจใส่สนใจจริงจัง ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามหลักอปริหานิยธรรม คือธรรมเป็นที่ตั้งแห่งความไม่เสื่อม เมื่อมีการประชุม ถ้าชาวพุทธมาพร้อมเพรียงกันประชุม ก็เป็นนิมิตหมายแห่งความเจริญงอกงาม

สำหรับวันนี้ อาตมภาพได้รับนิมนต์มาให้พูดเรื่อง “พระพุทธศาสนา ในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติไทย”

เมื่อฟังจากท่านผู้แนะนำ ก็เลยได้ทราบว่า ที่นิมนต์มาก็เพราะไปโยงกับหนังสือที่อาตมภาพได้เขียนไว้เล่มหนึ่ง ซึ่งมีชื่อว่า พระพุทธศาสนา ในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไปคิดให้ชัด ถ้าจะบัญญัติให้พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาประจำชาติ >>

เชิงอรรถ

  1. พระเทพเวที (ป. อ. ปยุตโต) บรรยายพิเศษ ในการประชุมสัมมนาเรื่อง “จิตสำนึกของชาวพุทธเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติ” จัดโดยสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทยฯ ร่วมกับพุทธสมาคมแห่งประเทศไทยฯ และสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติฯ ที่โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ วันที่ ๑ ก.ย. ๒๕๓๗ ชื่อเรื่องเดิมตามอาราธนาว่า “พุทธศาสนาในฐานะเป็นศาสนาประจำชาติไทย” พิมพ์เผยแพร่ในชื่อเรื่องว่า อุดมธรรม นำจิตสำนึกของสังคมไทย ในการพิมพ์ใหม่ปี ๒๕๕๐ เปลี่ยนชื่อหนังสือเป็น เจาะหาความจริง เรื่องศาสนาประจำชาติ

No Comments

Comments are closed.