ตามใจ เพื่อให้ลูกไปอยู่ในโลกแห่งความฝืนใจ

29 พฤศจิกายน 2544
เป็นตอนที่ 9 จาก 20 ตอนของ

ตามใจ เพื่อให้ลูกไปอยู่ในโลกแห่งความฝืนใจ

ทีนี้ อีกแง่หนึ่ง เราเอา “ฝืนใจ” ไปเป็นคู่ตรงข้ามกับ “ตามใจ” ไม่อยากให้เขาฝืนใจ ก็เลยตามใจ แต่ที่จริงนั้น การตามใจลูกตามใจเด็ก ก็คือการเลี้ยงลูกให้ไปอยู่ในโลกแห่งความฝืนใจ เรายิ่งตามใจเขา ก็ยิ่งทำให้เขาต้องไปอยู่กับความฝืนใจ เพราะอะไร? เพราะว่าเมื่อเด็กโตขึ้นไปอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงและมีชีวิตที่เป็นจริงนั้น โลกและชีวิตมันไม่ได้ตามใจคน แต่มันเป็นไปตามเหตุปัจจัยของมัน ทีนี้เมื่อเด็กถูกเอาใจมาจนเคยตัวกับการตามใจ พอมาอยู่ในโลกที่มันเป็นไปตามเหตุปัจจัย คราวนี้ละ แกก็ต้องอยู่กับความฝืนใจตลอดไปเลย แกจะทุกข์ยากลำบากมาก

การศึกษาต้องมาช่วยให้เด็กพัฒนาตัวของเขา คนที่เข้มแข็งมีความสามารถ จึงจะไปรับผิดชอบชีวิตของตนเองและทำการสร้างสรรค์ต่างๆ ได้ คนที่จะก้าวหน้าประสบความสำเร็จได้ ต้องฝึกต้องศึกษาต้องพัฒนาตัวมาอย่างนั้น

พวกฝรั่งก็อย่างที่ว่านี้แหละ วัฒนธรรมของเขาฝึกคนให้หัดกันมาตั้งแต่เด็กเลย ให้เอาชนะ เขาไปจนสุดโต่งเสียด้วยซ้ำ ถือกันกระทั่งว่า ใครดี ใครอยู่ ใครแข็งแรง คนนั้นจึงอยู่รอด ระบบแข่งขันที่เขาถือว่าเป็นแกนแห่งการสร้างความเจริญก้าวหน้าของเขา ก็คือการมุ่งสู่ชัยชนะ และการที่จะต้องเอาชนะคนอื่น นี่คือเนื้อตัวที่แท้ของฝรั่ง เพราะฉะนั้น ที่เราว่าคนไทยนิยมเอาอย่างฝรั่งนั้น แค่ตามฝรั่ง เราก็ไปไม่รอดแล้ว ไม่ต้องคิดไปถึงว่าจะให้เหนือกว่าฝรั่ง

ฝรั่งพยายามเอาชนะธรรมชาติ ธรรมชาติมีกฎเกณฑ์ความจริงอะไรอยู่เบื้องหลัง ต้องไปศึกษาหาความรู้สืบค้นให้ได้ความจริง เรียกว่าไปล้วงความลับของธรรมชาติ เพื่อเอามาจัดการมันให้เป็นไปตามความต้องการของคน ความก้าวหน้าในการพยายามเอาชนะธรรมชาตินั้นคืออารยธรรมของเขา แม้ว่าความคิดและความพยายามทำการอย่างนี้จะไม่ถูกต้อง ก็จริง แต่นี่ก็คือเบื้องหลังความสำเร็จของฝรั่ง ซึ่งหมายถึงคุณสมบัติแห่งความมุ่งมั่นบุกฝ่าและวัฒนธรรมที่หล่อหลอมคนให้เข้มแข็งต้องเร่งรัดฝึกตนอยู่เสมอ

ถ้าเราจะมัวไม่อยากฝืนใจเด็ก แล้วก็ตามใจเด็ก และไม่รู้จักพลิกความฝืนใจให้กลายเป็นความเต็มใจ ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ คือเด็กจะยิ่งอ่อนแอลง และอย่างที่ว่า ถ้าเอาแต่ตามใจลูก ก็คือจะส่งลูกให้เข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝืนใจ และต่อไปลูกจะลำบากเพราะจะเจอแต่เรื่องที่ต้องฝืนใจไปทุกอย่าง

เพราะฉะนั้น จะต้องมาตรวจสอบ ต้องมาชำระสะสางซักล้างกันใหม่ ในเรื่องการศึกษา ตั้งแต่การเลี้ยงดูในบ้าน ที่เห็นได้ไม่ยากว่าผิดพลาดไปมากแล้ว อย่างที่ว่า ที่เราติเตียนกันเองว่าเราได้แต่ตามฝรั่งนั้น ที่จริง แม้แต่แค่ตามฝรั่ง เราก็ยังตามไม่ถูก แค่นี้ก็พลาดแล้ว จำไว้เลยว่าฝรั่งไม่ฝึกเด็กให้อ่อนแอ เขาไม่ตามใจเด็ก เราจะต้องพลิกความฝืนใจให้เป็นการฝึกให้ได้ อย่างน้อยให้เด็กเกิดจิตสำนึกที่จะเอาชนะความยาก หรือจะทำให้สำเร็จ อย่างนี้จึงจะเรียกว่าฝึกแบบฝรั่ง

แต่ถ้าว่าตามหลักของเราก็คือ ต้องสร้างฉันทะขึ้น เริ่มตั้งแต่ให้มองเห็นคุณค่าประโยชน์ของสิ่งที่จะทำ และให้สำนึกตระหนักถึงความจริงของชีวิตที่ว่ามันจะดีได้ ก็ต้องฝึกต้องหัดต้องพัฒนา อันนี้แน่นอน ไม่มีทางหลีกเลี่ยง ปัญญาคือความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการคิด ก็ตาม คุณสมบัติและความสามารถด้านอื่นๆ ของชีวิต ก็ตาม ไม่มีใครจะหยิบยื่นยัดใส่ให้เราได้ เรามีศักยภาพอยู่แล้ว แต่ต้องฝึกหัดพัฒนาให้มันสำแดงตัวเป็นจริงออกมา ถ้าฝึกกันถูกทางแล้ว แม้แต่จะให้เรียนอย่างมีความสุข นักเรียนโดยลำพังตัวเขาเองก็จะเรียนอย่างมีความสุขได้ โดยไม่ต้องรอเข้าชั้นเรียนที่มีคุณครูคอยจัดให้เรียนอย่างมีความสุข

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< จากการศึกษาจัดตั้ง สู่การพึ่งตนได้ในการเรียนรู้สังคมดี ที่ให้มีสิทธิ์ คนดี ที่รู้จักใช้สิทธิ์ >>

No Comments

Comments are closed.