บูรณาการวิชาเข้ากับชีวิตจริง

29 พฤศจิกายน 2544
เป็นตอนที่ 5 จาก 20 ตอนของ

ข้อคิดเพื่อการศึกษา:
อะไรๆ ก็ให้มาถึงเหตุปัจจัย1

กรรมการมูลนิธิ: คงเริ่มในจุดที่ว่า ทางสถาบันราชภัฏ ร่วมกับมูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพ พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต) จะจัดการสัมมนาเชิงวิชาการ เรื่อง “การปฏิรูปกระบวนการเรียนการสอนวิชาพุทธศาสนา ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ซึ่งในปีนี้และปีหน้าจะจัด ๓ ครั้ง คราวนี้ก็อยากจะกราบเรียนขอความคิดเห็นจากท่านเจ้าคุณอาจารย์ว่า ในการที่ทางมูลนิธิฯ จะจัดสัมมนาเรื่องการปฏิรูปกระบวนการเรียนการสอนวิชาพุทธศาสนาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งเขาจะนำรูปแบบการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริ คือ การเรียนรู้แบบ “ฉลาดรู้” มาเป็นแนวปฏิบัตินั้น ตามความเห็นของท่านเจ้าคุณอาจารย์ จะมีข้อเสนอแนะต่อกลุ่มที่จะปฏิบัติงานและกลุ่มวิทยากรอย่างไร อยากจะขอคำแนะนำตรงนี้

บูรณาการวิชาเข้ากับชีวิตจริง

พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)

กว้างเหลือเกิน จะเริ่มที่จุดไหนดี แต่ก็มีเรื่องหนึ่งที่น่าสังเกต คือการที่จะบูรณาการวิชาพุทธศาสนาเข้าไปในวิชาต่างๆ

กรรมการมูลนิธิฯ

ท่านเจ้าคุณอาจารย์ได้อ่านวัตถุประสงค์แล้ว ใช่ไหมเจ้าคะ

พระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต)

ก็อ่านแล้ว คือ ถ้าว่าในแง่ของบูรณาการ คิดว่าน่าจะเน้นในแง่ที่เป็นการบูรณาการเข้าไปในวิถีชีวิตมากกว่า หมายความว่า บูรณาการเข้าไปในชีวิตที่เป็นอยู่จริงของเด็ก แทนที่จะบูรณาการเข้าไปในวิชาโน้นวิชานี้ เพราะวิชาเหล่านั้นเองก็แปลกแยกจากชีวิตจริงอยู่แล้ว แล้วจะบูรณาการวิชากับวิชาไปทำไม วิชาการเหล่านั้นเองนั่นแหละ จะต้องมาบูรณาการเข้ากับชีวิตที่เป็นจริง และถ้าปฏิบัติถูกต้อง วิชาการเหล่านั้นจะอาศัยวิชาพุทธศาสนานี่เองเป็นสื่อหรือเป็นทางที่จะบูรณาการเข้าไปในชีวิตคน จุดเน้นอยู่ที่จะบูรณาการเข้าไปในชีวิต และในสังคมที่เป็นอยู่

ปัญหาขณะนี้ก็คือ วิชาการต่างๆ แปลกแยกออกไปจากชีวิต แต่เป้าหมายของการศึกษานั้นรวมอยู่ที่เดียว คือบูรณาการวิชาการเหล่านั้นเข้าไปในชีวิตและในสังคมที่มีอยู่เป็นอยู่แล้ว ทีนี้ วิชาพุทธศาสนานั้น ถ้าเราเข้าใจจริงคือเข้าถึงเนื้อแท้ จะเป็นวิชาที่บูรณาการเข้าสู่ชีวิตซึ่งเป็นของจริงโดยตรง เพราะเป็นเรื่องของความจริงด้วยกัน คือความจริงกับความจริง และธรรมะก็คือ เรื่องความจริงของชีวิตของเราเอง และการที่ชีวิตนั้นจะอยู่อย่างดีท่ามกลางธรรมชาติในความเป็นจริงของโลกได้อย่างไร ซึ่งจะโยงมาถึงวินัย ที่เป็นเรื่องวิถีชีวิต ของมนุษย์ที่อยู่ร่วมกันในชุมชนหรือในสังคม

พระพุทธเจ้าสอนธรรม ซึ่งก็คือหลักความจริงที่มีอยู่ตามธรรมดา รวมทั้งการที่จะปฏิบัติหรือดำเนินชีวิตของเราให้ได้ผลดีที่สุดบนฐานแห่งความจริงนั้น ธรรมนั้นจะเรียกว่าเป็นวิชาหรือไม่ก็ได้ ที่จริง การที่มาจัดเรียกเป็นวิชานั้น เป็นการทำให้ซับซ้อนมากขึ้น แต่ตัวแท้ของวิชาพุทธศาสนาคือธรรม เป็นเรื่องที่บูรณาการได้ง่ายที่สุด เพราะเป็นเรื่องของชีวิตเองอย่างที่ว่าแล้ว ก็คือการจัดปรับชีวิตให้เข้ากับความจริงในแง่มุมหรือในวิถีทางที่ชีวิตจะเป็นอยู่ได้อย่างดีที่สุด เจริญงอกงามที่สุด นี่แหละจึงเป็นการบูรณาการที่ตรงจุด คือ เป็นเรื่องของการเข้าไปจัดปรับชีวิตจริงนั้นเลยทีเดียว

ในเมื่อตัวแท้ของวิชาพุทธศาสนาคือธรรม เป็นอย่างนี้ ถ้าเราจะบูรณาการวิชาการอื่น เราก็ใช้ธรรมนั่นแหละมาบูรณาการวิชาการเหล่านั้นเข้ากับชีวิตของคน ไม่ต้องไปคิดว่าจะบูรณาการวิชาพุทธศาสนาเข้ากับวิชาเหล่านั้น ไม่ต้องไปทำอย่างนั้น น่าจะย้ายเป้าหมายกันเลย เพราะว่าการบูรณาการเข้ากับชีวิตจริง เป็นเรื่องตรงไปตรงมา และถ้าเข้าถึงตัววิชานั้นจริง ก็ง่าย

นอกจากเข้าใจตัววิชาที่จะบูรณาการแล้ว ก็ต้องมองเห็นว่าเราจะให้ชีวิตของเด็กและให้ชุมชนหรือสังคมเป็นอย่างไร ซึ่งก็มองได้เป็นขั้นเป็นตอน

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< อุดมศึกษาจะสูงสุดจริง ต้องลงไปถึงบ้านที่เป็นฐานของสังคมบูรณาการระเบียบสังคมเข้าไปในวิถีชีวิตของคน >>

เชิงอรรถ

  1. พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต) ให้สัมภาษณ์แก่ กรรมการมูลนิธิการศึกษาเพื่อสันติภาพพระธรรมปิฎก (ป. อ. ปยุตฺโต) เรื่อง “การปฏิรูปการเรียนการสอนวิชาพระพุทธศาสนา ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ณ วัดญาณเวศกวัน ๒๙ พ.ย. ๒๕๔๔

No Comments

Comments are closed.