- คาถานำ: “เงินทอง ไม่ทำให้หมดกิเลส”
- ชีวิตยาวนาน ที่ผ่านประสบการณ์มากหลาย
- เงินจำนวนใหญ่ คนได้ยินตื่นใจ แต่ควรสนใจว่า สร้างมา และได้ใช้ไปอย่างไร
- เงินทองเป็นของสำคัญ มีคุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์
- ดูชาวบ้านดี ที่การหา รักษา และใช้ทรัพย์
- ทรัพย์ไม่อาจครอบงำจิต หรือบังปัญญา ของอารยชน
- ปุถุชนมุ่งมั่น จะมีทรัพย์และอำนาจ
- อารยชนมีจุดสนใจ ที่วิธีใช้ทรัพย์และอำนาจ
- ทรัพย์และอำนาจ เพื่อเป็นเครื่องมือของกิเลส หรือเพื่อเป็นอุปกรณ์ของธรรม
- ทรัพย์ภายนอกมีคุณค่าและความหมาย เมื่อมีทรัพย์ภายในเป็นฐาน
- ทรัพย์สินสำคัญ แต่เราต้องรู้ทัน และข้ามพ้นจุดอ่อนของมัน
- มนุษย์ที่พัฒนา รู้จักสัมพันธ์ ทำให้ทรัพย์ทั้งนอกทั้งในเป็นปัจจัยแก่กัน
- หลักประกันชีวิตขั้นสุดท้าย คือทรัพย์ภายในแห่งความมีธรรม
- นักพัฒนาที่แท้ เจอทุกข์ยิ่งได้ธรรม เจอปัญหายิ่งได้ปัญญา
- ชัยชนะสูงสุด ที่ทำชีวิตให้สมบูรณ์
- คำอนุโมทนา ในการพิมพ์ครั้งแรก
มนุษย์ที่พัฒนา รู้จักสัมพันธ์
ทำให้ทรัพย์ทั้งนอกทั้งในเป็นปัจจัยแก่กัน
ถ้าคนเราปฏิบัติถูกต้อง ก็จะทำทรัพย์ให้เกิดขึ้นทั้งสองประการ คือทั้งทรัพย์ภายนอก และทรัพย์ภายใน และทรัพย์ทั้งภายนอกและภายในนี้ ก็มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน
คนที่มีทรัพย์ภายใน คือ ความรู้ และความดี ก็สร้างทรัพย์ภายนอกให้เกิดขึ้น
คนที่มีทรัพย์ภายนอก เมื่อมีปัญญาและคุณธรรม คือมีความรู้และความดี ที่ทำให้รู้จักปฏิบัติต่อทรัพย์ได้ถูกต้อง ก็อาศัยทรัพย์ภายนอกนั้น สร้างอริยทรัพย์ คือทรัพย์ภายในขึ้นอีก เช่นใช้ทรัพย์บำเพ็ญความเสียสละ ทำให้เกิดประโยชน์ สร้างสรรค์ทำความดี อาศัยทรัพย์นั้นเป็นปัจจัยเกื้อหนุนในการสร้างความดียิ่งๆ ขึ้นไป ดังที่กล่าวมาแล้ว ก็เกิดมีอริยทรัพย์ขึ้นมาเป็นคู่กัน
เพราะฉะนั้น ในทางพระพุทธศาสนาจึงให้ความสำคัญทั้งสองอย่าง คือทั้งทรัพย์ภายนอก และทรัพย์ภายใน แต่ท่านเน้นความสำคัญของทรัพย์ภายใน คืออริยทรัพย์
คนเรานี้มีชีวิตที่เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง ทรัพย์ภายนอกเป็นวัตถุ เป็นสิ่งที่ไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วก็เสื่อมสลายไป เป็นของกลางๆ จะทำให้เกิดคุณก็ได้ เกิดโทษก็ได้
เพราะฉะนั้น จึงจะต้องปฏิบัติต่อทรัพย์ให้ถูกต้อง คือทำให้เกิดผลในทางที่เป็นประโยชน์ มีคุณค่า แต่การที่จะทำให้สำเร็จผลได้อย่างนี้ ก็คือการที่จะต้องมีทรัพย์ภายในขึ้นมาเป็นฐาน
เมื่อเรามีทรัพย์ภายใน คือ มีศรัทธา มีศีล มีหิริ มี โอตตัปปะ มีความรู้ มีความเสียสละมีน้ำใจ และมีปัญญาแล้ว ก็สามารถจะปฏิบัติต่อทรัพย์ภายนอกได้อย่างถูกต้อง และการปฏิบัติได้อย่างถูกต้องนี้ ก็จะทำให้เกิดความเจริญงอกงามแก่ชีวิตทั้งตนเองและผู้อื่น คือทั้งส่วนบุคคลและแก่สังคม จนกระทั่งให้คุณค่าที่สูงสุด คือการเข้าถึงสิ่งที่ทางพระเรียกว่าโลกุตรธรรม
คนที่อยู่ในโลกนั้น เป็นธรรมดาว่า ถึงแม้มีทรัพย์แล้ว ก็จะต้องตกอยู่ในกระแสความผันผวนปรวนแปรของสิ่งทั้งหลายที่เป็นอนิจจัง ดังชีวิตของคุณโยมผู้ล่วงลับที่ได้เล่ามาเป็นตัวอย่าง
นั่นก็คือ การที่แสวงหาสร้างสมทรัพย์ขึ้นมาแล้ว ต่อมาทรัพย์นั้นก็อาจจะเสื่อมลงไป มีจำนวนลดน้อยลง แต่ถ้าเรามีอริยทรัพย์ เช่นมีความขยันหมั่นเพียร และมีความรู้ความสามารถ ก็ไม่เป็นไร เราก็สามารถจะรื้อฟื้นฐานะ สร้างสรรค์ทรัพย์ภายนอกขึ้นใหม่อีกได้
No Comments
Comments are closed.