๒. งานผูกสีมา ตามวัฒนธรรมไทย

11 มกราคม 2543
เป็นตอนที่ 6 จาก 8 ตอนของ

สุดท้ายก็สำเร็จ คือ ฝังลูกนิมิต – ผูกสีมา

ถาม: ตกลงถอนนี้ ๑ วันใช่ไหม?

พระธรรมปิฎก: อย่างที่บอกแล้วว่าถอนวันไหนก็ได้ ให้เสร็จไปเสียก่อนในวันใดวันหนึ่ง เป็นเรื่องของพระ หรือโยมจะมาร่วมจัดเตรียมการก็ได้ ส่วนการผูกสีมาจะเป็นเรื่องสำคัญในวันสุดท้าย คือ ฝังลูกนิมิตแล้วก็ผูกสีมา ถ้าเชิญบุคคลสำคัญมาก็ต้องคิดว่าเราจะให้ท่านมีบทบาทอะไรบ้าง

วันนั้นก็อาจจะมีการทำบุญ เลี้ยงพระ และเพื่อจะให้การฝังลูกนิมิต-ผูกสีมาต่อเนื่องไป ก็เลี้ยงพระตอนเพลก่อน แล้วฝังลูกนิมิต-ผูกสีมาในตอนบ่าย ประธานก็จะตัดสาแหรกให้ลูกนิมิตลงไปในหลุม จะให้ประธานตัดเฉพาะหลุมกลาง หรือทุกหลุมก็แล้วแต่ อาจจะเตรียมผู้ใหญ่ไว้ ๙ คน โดยเอาประธานใหญ่ไว้หลุมกลาง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ต้องมาตกลงกันทั้งสิ้น กลายเป็นเรื่องมีรายละเอียดเยอะแยะ ซึ่งเป็นเรื่องของวัฒนธรรมประเพณี ไม่ใช่ส่วนสำคัญของสังฆกรรม

การฝังลูกนิมิต-ผูกสีมาอาจจะมีพระจำนวนไม่มากนัก เพียง ๑๐ ถึง ๒๐ องค์ หรือเราอาจต้องการมาก ๔๐ – ๕๐ องค์ หรือ ๑๐๐ องค์ก็แล้วแต่ ก็นิมนต์มาประชุมกันในเขตนั้น แล้วก็มีพระเถระผู้รับมอบหมายจากสงฆ์ออกไปทักนิมิต

ตอนทักนิมิตนี้จะให้ญาติโยมมีส่วนร่วมด้วย โดยยืนอยู่ข้างนอกลูกนิมิต แล้วด้านในของลูกนิมิตพระที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุมก็จะไปยืนทักลูกนิมิตว่า ทิศนี้ใช้อะไรเป็นนิมิต โยมก็จะเป็นผู้ตอบว่า ทิศนี้ใช้ศิลาเป็นนิมิต นี่เป็นเรื่องของการให้ญาติโยมมีส่วนร่วม

เมื่อทักนิมิตเสร็จแล้ว พระสงฆ์ก็สวดเป็นการตกลงว่าได้กำหนดเอาเขตตามแนวนิมิตเหล่านี้เป็นสีมา คือเขตของสงฆ์ เมื่อที่ประชุมยอมรับตามนี้ก็สวดประกาศมติ แล้วก็จบ

ถาม: มีความจำเป็นอย่างไรที่วัดต่างๆ ต้องใช้เวลาในการปิดทองลูกนิมิต เป็นเวลานานๆ เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรมของวัด โดยมาทำบุญ

พระธรรมปิฎก: ถ้ามองในแง่ดี การมีงานหลายวันก็เป็นเรื่องของวัฒนธรรมประเพณีที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง แต่ถ้ามองในแง่ไม่ดีก็เป็นเรื่องของการหาเงินหาทอง ที่ต้องวางแผนว่าทำอย่างไรจะให้ได้เงินมากที่สุด เช่น คิดว่าฝังลูกนิมิต-ผูกสีมาทั้งที ต้อง ๑๐ ล้าน แล้วก็ต้องวางแผนอีกว่า จะจัดอะไรอีกที่จะให้เป็นงานใหญ่ จะมีมหรสพกี่ชนิด แต่ละอย่างจะหาเงินได้อย่างไร แล้วแต่จะคิดไป นี่เป็นเรื่องของจุดมุ่งหมายว่าจะตั้งอย่างไร

ถาม: การคิดในเรื่องนี้จะเป็นของญาติโยมใช่หรือไม่

พระธรรมปิฎก: ไม่ว่าในแง่ไหน ก็ร่วมกันคิดทั้งนั้น แม้แต่เรื่องหาเงินเดี๋ยวนี้พระก็คิดกันเยอะ ถ้าจะคิดให้เป็นบุญเป็นกุศลกันจริงๆ แท้ๆ ก็ต้องช่วยกันร่วมกันคิด ให้เป็นความสามัคคีของพุทธบริษัททั้ง ๔

ขอฝากช่วยกันคิด ว่าจะทำอย่างไรกันบ้าง เพื่อให้งานผูกสีมามีความหมายและสาระเพิ่มขึ้น อย่างถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา และเป็นประโยชน์แก่ประชาชน

 

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ๑. การผูกสีมา ตามพระวินัยคาถาเสริมบุญในการปิดทอง >>

หน้า: 1 2 3 4 5 6 7 8

No Comments

Comments are closed.