จริงไหมที่ว่ารัฐได้ใช้พระพุทธศาสนาหรือสถาบันสงฆ์ เป็นเครื่องมือในการปกครองประชาชน

30 เมษายน 2525
เป็นตอนที่ 6 จาก 13 ตอนของ

ถาม เป็นความจริงหรือไม่ ตามที่มีบางคนกล่าวว่า ในประเทศไทยนี้ ทางฝ่ายรัฐหรือผู้ปกครองได้ใช้พระพุทธศาสนาเป็นเครื่องมือ หรือเอาสถาบันสงฆ์เป็นเครื่องมือในการปกครองประชาชน โดยใช้เป็นเครื่องทำให้ประชาชนปกครองง่ายตลอดมา

ตอบ เรื่องอย่างนี้ก็เคยได้ยินอยู่ เช่นมีบางคนกล่าวถึงพระยาลิไท ที่ได้ทรงแต่งไตรภูมิขึ้นมา ก็ว่าเป็นวิธีการของฝ่ายปกครอง หรือฝ่ายรัฐ หรือพระเจ้าแผ่นดินที่ทำให้ประชาชนมีความเชื่อในเรื่องบุญเรื่องกรรม แล้วจะได้ปกครองกันง่ายๆ คือไม่มีความกระด้างกระเดื่อง ไม่มีความคิดออกไปในทางอื่น เรื่องอย่างนี้ไม่ควรวินิจฉัยโดยง่าย จะตอบตายตัวไปข้างเดียวเห็นจะไม่ถูก

ประการที่ ๑ ก็เป็นเรื่องในประวัติศาสตร์ซึ่งมีรายละเอียดซับซ้อน ยังจะต้องศึกษาวิเคราะห์กันให้ละเอียดลออ ให้รู้ถ่องแท้ยิ่งกว่านี้ ปัจจุบันคนไทยเรายังศึกษาประวัติศาสตร์ไทยเล็กน้อย ไม่เพียงพอ ไม่ควรจะด่วนวินิจฉัยลงไปทันที

อีกประการหนึ่ง ในแง่เกี่ยวกับหลักการ ที่ว่าด้วยหลักการคือ ไม่ได้ว่าเฉพาะกรณี ในแง่หลักการก็เป็นธรรมดาอยู่เอง เป็นนักปกครองก็ควรจะพยายามทำให้ปกครองง่าย นักปกครองคนไหนพยายามทำให้ประชาชนปกครองได้ยาก เห็นจะเป็นนักปกครองที่วิปริต

การปกครองที่ง่ายหรืออยากให้ปกครองง่ายเป็นเรื่องธรรมดา ปัญหามันอยู่ที่ว่าปกครองง่ายคืออะไรและเพื่ออะไร ถ้าหากว่าการปกครองที่ง่ายนั้นมีความหมายในแง่ที่ว่า ปกครองให้ได้ผลดีจะได้เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนนั้นเอง จะได้เกิดความถูกต้อง ความชอบธรรม เป็นต้น อะไรอย่างนี้ มันก็เป็นเรื่องของสิ่งที่ดีงาม การปฏิบัติที่ถูกต้อง แต่ถ้าปกครองให้ง่ายเพื่อตัวเอง คือผู้ปกครองจะได้เสวยผลประโยชน์ได้สะดวกสบาย ถ้าอย่างนี้เป็นไปเพื่อความมุ่งหมายส่วนตัว เป็นไปเพื่อเห็นแก่ตน ก็เป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบ เพราะฉะนั้น จะต้องมีเงื่อนไขว่า ปกครองให้ง่ายเพื่ออะไร

อาจจะเป็นไปได้ที่นักปกครองบางคนหรือบางยุคบางสมัย ต้องการให้ประชาชนปกครองง่าย ตัวเองจะได้เสวยผลประโยชน์อยู่ได้อย่างสบาย จะได้มีความสุข ครองอำนาจอยู่ได้ยั่งยืน นี้ก็ถือว่าเป็นความมุ่งหมายที่ไม่ชอบธรรม แต่ว่าถ้าเขาปกครองให้ง่ายโดยที่ว่าเพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชนเอง และการปกครองให้ง่ายก็คือการทำให้เกิดความชอบธรรมขึ้น อย่างที่เรียกว่าปกครองให้ได้ผลดีนั่นเอง ในแง่นี้ก็ตรงกับหลักการที่กล่าวมาข้างต้น

ในเมื่อพระสงฆ์ประพฤติปฏิบัติชอบ ได้ทำหน้าที่เผยแพร่สั่งสอนประชาชนให้รู้อะไรดีอะไรชั่ว อะไรถูกอะไรผิดแล้ว ประชาชนมีศีลธรรม มีคุณภาพจิตดี มีปัญญาเจริญงอกงาม และก็อยู่ร่วมกันด้วยดี การปกครองได้ผลดีในแง่นี้ ก็เป็นการที่ถูกต้อง ส่วนการปกครองให้ง่ายโดยวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ส่วนตน เรากล่าวได้ว่าอาศัยพระพุทธศาสนาหรือพระสงฆ์เป็นเครื่องมือแสวงหาผลประโยชน์ แต่ถ้าปกครองให้ง่ายโดยที่ว่าให้ประชาชนได้มีความร่มเย็นเป็นสุขอยู่ในศีลธรรม ก็ถือว่าเป็นการปกครองที่อาศัยพระพุทธศาสนา อาศัยหลักธรรม อาศัยคณะสงฆ์โดยทางที่ชอบเพื่อเป็นเครื่องเอื้ออำนวยประโยชน์สุขแก่ประชาชน ก็มีเขตแดนกันอยู่ระหว่างการที่ว่าเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ หรือเป็นเครื่องอำนวยประโยชน์สุข การที่ว่าเป็นสิ่งเกื้อกูลในการปกครอง ไม่จำเป็นจะต้องถือว่าเป็นเจตนาร้ายที่จะใช้เป็นเครื่องมือเสมอไป

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< มียุคไหนบ้างที่ทางรัฐกับศาสนาเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง จนทำให้เกิดผลเสียหายทั้ง ๒ ฝ่ายถ้ารัฐกับศาสนาไม่มีความผูกพันกัน แล้วทั้งสองฝ่ายจะดำเนินไปได้ด้วยดีเสมอไปไหม >>

No Comments

Comments are closed.