ภาคผนวก: หนังสือแจ้งมหาเถรสมาคม

27 มิถุนายน 2544
เป็นตอนที่ 16 จาก 20 ตอนของ

ภาคผนวก: หนังสือแจ้งมหาเถรสมาคม

ที่ พิเศษ ๑/๒๕๔๔

วัดญาณเวศกวัน หลังพุทธมณฑล
ต.บางกระทึก อ.สามพราน จ.นครปฐม

๒๗ มิถุนายน ๒๕๔๔

เรื่อง ขอปวารณาต่อคณะสงฆ์ ที่จะตรวจสอบเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหา ในหนังสือของผู้ใช้ชื่อว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล ซึ่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการบางรูป ร่วมกับผู้อ้างตนเป็นชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ ดำเนินการเผยแพร่

เจริญพร อธิบดีกรมการศาสนา ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม

อ้างถึง จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ที่เศษ/๒๕๔๒ ลงวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๔๒

สิ่งที่ส่งมาด้วย

    จดหมายเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ที่อ้างถึง ๑ ฉบับ
    หนังสือ “ขอคำตอบจาก ผบ.ทหารสูงสุด กรณีนายทหารทุจริต แห่งชมรม(เถื่อน)ชาวพุทธสามเหล่าทัพ” ๕๐ เล่ม

ตามที่ได้มีการแจกจ่ายเผยแพร่หนังสือชื่อต่างๆ ของผู้เขียนที่ใช้ชื่อว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล ซึ่งกล่าวเท็จใส่ร้ายบุคคลที่วิพากย์วิจารณ์หรือให้ความรู้พระธรรมวินัยแก่ประชาชนเกี่ยวกับปัญหาวัดพระธรรมกาย โดยเฉพาะได้ปั้นแต่งเรื่องใส่ความพระธรรมปิฎก เป็นพิเศษ เช่นกล่าวหาว่า เป็นพวกคอมมูนิสต์ เป็นภัยต่อพระพุทธศาสนาและบ้านเมือง เป็นต้น และพระธรรมปิฎกได้มีจดหมายเปิดผนึกถึงท่านนายกรัฐมนตรี ขอปวารณา(เปิดโอกาส)รับการตรวจสอบ เพื่อทำความจริงให้ประจักษ์แก่ประชาชน ดังความแจ้งในจดหมายเปิดผนึกที่อ้างถึงแล้วนั้น

บัดนี้ เวลาล่วงมาเกือบ ๒ ปีแล้ว ปรากฏว่า ยังมีการเผยแพร่หนังสือเท็จของ ดร.เบญจ์ บาระกุล โดยเฉพาะในการประชุมพระสังฆาธิการ และในการประชุมที่เจ้าคณะบางท่านจัดขึ้นในโอกาสต่างๆ ซึ่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการนั้นๆ ได้เปิดโอกาส หรือสนับสนุน หรือร่วมมือกับนายทหารบางคน ที่อ้างตนว่าอยู่ในชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ บรรยายเรื่องเท็จที่ปั้นแต่งขึ้น และแจกหนังสือของ ดร.เบญจ์ บาระกุล ซึ่งทางราชการได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วว่าเป็นสิ่งพิมพ์ผิดกฎหมาย แก่พระสังฆาธิการ พระภิกษุสามเณร และประชาชนที่เข้าประชุม เช่นที่หลายจังหวัดในภาคเหนือ

การที่เจ้าคณะพระสังฆาธิการบางท่านปฏิบัติเช่นนั้น จะทำให้เห็นได้ว่าในคณะสงฆ์ได้มีความเห็นคล้อยตามหนังสือของผู้ใช้ชื่อว่า ดร.เบญจ์ บาระกุล หรืออย่างน้อยมีความเคลือบแคลงสงสัย และเรื่องที่กล่าวร้ายนั้น หากเป็นจริง ก็ตาม หรือไม่เป็นจริง แต่ผู้อ่านหลงเข้าใจผิดไป ก็ตาม ก็จะเป็นภัยอย่างมากต่อพระพุทธศาสนาและประเทศชาติ ไม่สมควรปล่อยปละละเลย อาตมภาพจึงใคร่ขอปวารณาตัวต่อคณะสงฆ์ ในการที่จะตรวจสอบ และสืบค้นความจริง

เนื่องจากอาตมภาพยังอยู่ในภาวะอาพาธ ไม่สามารถขวนขวายที่จะไปกราบทูลเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ประธานกรรมการมหาเถรสมาคม และกราบเรียนพระมหาเถระ กรรมการมหาเถรสมาคมทุกท่าน ด้วยตนเอง จึงเจริญพรมายังท่านอธิบดีกรมการศาสนา ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้โปรดอนุเคราะห์นำความตามหนังสือนี้กราบเรียนที่ประชุมมหาเถรสมาคม เพื่อปวารณาต่อคณะสงฆ์ ในการที่จะตรวจสอบความจริงต่างๆ ตามข้อกล่าวหา เช่นเดียวกับที่ได้เคยปวารณาต่อทางการบ้านเมืองไปแล้ว ด้วยหวังว่าศาสนกิจทั้งหลายจักได้ดำเนินไปอย่างกระจ่างแจ้งแจ่มใส และอำนวยประโยชน์สุขอันไพบูลย์แก่ประชาชนทั้งปวงสืบต่อไป

พร้อมนี้ได้ส่งหนังสือ “ขอคำตอบจาก ผบ.ทหารสูงสุด กรณีนายทหารทุจริต แห่งชมรม(เถื่อน)ชาวพุทธสามเหล่าทัพ” มาด้วย เพื่อประโยชน์ที่จะใช้เป็นเครื่องประกอบ ในการตรวจสอบและสืบค้นความจริงในเรื่องต่างๆ ตามคำกล่าวหา

จึงเจริญพรมา และขออนุโมทนาในความอนุเคราะห์ของท่านอธิบดีกรมการศาสนา มา ณ โอกาสนี้เป็นอย่างยิ่ง

ขอเจริญพร
(ลายเซ็น)
(พระธรรมปิฎก)

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ทำไมตำรวจจึงว่า ดร. เบญจ์ ทำงานให้วัดธรรมกายภาคผนวก: หนังสือแจ้งเจ้าคณะจังหวัด >>

No Comments

Comments are closed.