เมืองไทยนี้ดี อะไรๆ ก็สบาย เลยกลายเป็นไม่ดี

1 ตุลาคม 2538
เป็นตอนที่ 7 จาก 17 ตอนของ

เมืองไทยนี้ดี อะไรๆ ก็สบาย เลยกลายเป็นไม่ดี

สังคมไทยมีภูมิหลัง ที่มีทั้งข้อดี และข้อเสีย คือภูมิหลังที่ทำให้จิตใจชอบความสะดวกสบาย และกลายเป็นคนอ่อนแอ

ข้อแรกคือ ในทางภูมิศาสตร์ ประเทศไทยมีธรรมชาติแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ไม่ค่อยพบความลำบากยากแค้น

เมื่อมีชีวิตสะดวกสบาย คนก็ติดในความสะดวกสบาย มีอะไรที่ลำบากเหนื่อยยาก ก็ไม่อยากสู้ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง ทีนี้พอมีอะไรมาเสริมความสะดวกสบาย เช่นเทคโนโลยีบริโภค ก็ชอบนักหนา

พร้อมกับความชอบสะดวกสบาย ก็คือความอ่อนแอ มันมาด้วยกัน เมื่อคนชอบความสะดวกสบาย ก็ไม่อยากเจอสิ่งที่ยากลำบาก ไม่สู้ ถ้ายากถ้าเหนื่อย ก็ไม่เอา หนี เลี่ยง ถอย

แล้วก็ทุกข์ง่าย เพราะเป็นคนที่เจอมาแต่ความสุข คนที่เจอแต่ความสุขนั้น เจอปัญหาแล้วทุกข์ง่าย นิดๆ หน่อยๆ ก็ทุกข์แล้ว ต่างจากคนที่เคยลำบากมาจนชิน ซึ่งจะไม่ค่อยทุกข์อะไรง่ายๆ

พูดสั้นๆ ว่า คนไทยนี่ หนึ่ง ชอบความสะดวกสบาย สอง กลายเป็นคนอ่อนแอ

ขอพูดรวบรัดว่ามี ๔ ปัจจัยที่ทำให้คนไทยอ่อนแอ คือ

๑. สภาพแวดล้อมพื้นฐาน ที่ธรรมชาติเอื้อ ทำให้อยู่สบาย “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว”

๒. เราอยู่สบายเรื่อยมา อยู่มาๆ วันดีคืนดี ก็เจอฝรั่งสมัยใหม่เมื่อร้อยกว่าปีนี่ พอฝรั่งเข้ามา ด้านหนึ่งของฝรั่งก็คือมีเทคโนโลยีติดมาด้วย

เทคโนโลยีที่มาเจอกับคนไทย เป็นเทคโนโลยีสำเร็จรูป เขาทำมาเสร็จ และเป็นประเภทบริโภค มาอำนวยความสะดวกสบาย คนไทยสบายอยู่แล้ว ก็เจอเข้ากับเทคโนโลยีในความหมายที่เสริมความสะดวกสบาย บำเรอความสุขหนักเข้าไปอีก

ขอให้สังเกตว่า ความหมายของเทคโนโลยีสำหรับคนไทย เป็นความหมายแบบนักบริโภค คือเป็นเครื่องบำรุงบำเรอความสุข คนไทยจะมีความรู้สึกนี้ และคนไทยจะมองอุตสาหกรรมในความหมายนี้ด้วย คือ มองว่าอุตสาหกรรมเป็นกระบวนการผลิตที่นำมาซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกสบาย บำรุงบำเรอความสุข

ความหมายนี้ต่างจากความหมายเดิมที่เกิดในสังคมฝรั่ง สำหรับสังคมฝรั่งนั้น เทคโนโลยีอันเดียวกับที่คนไทยมองนี้ มีความหมายสำหรับเขาคนละแบบ เพราะว่าเทคโนโลยีนั้นฝรั่งสร้างขึ้นมาด้วยมือเขาเอง ไม่ได้สำเร็จมาเป็นเทคโนโลยีปัจจุบันนี้ทันที แต่มันผ่านการพัฒนาด้วยความเพียรพยายามสร้างสรรค์มาตั้งสองร้อยกว่าปี ตั้งแต่เริ่มยุคอุตสาหกรรมเมื่อ ๒๕๐ ปีก่อนโน้น

เทคโนโลยีสมัยใหม่จะเกิดขึ้นมา และพัฒนาได้ ต้องอาศัยอะไรบ้าง

(๑) อาศัยวิทยาศาสตร์ ฝรั่งต้องคิดค้นหาความรู้วิทยาศาสตร์ กว่าจะได้ความรู้มา ก็เกิดสภาพจิตใจที่ฝังแน่นเป็นนิสัย ทำให้อยากรู้ ชอบทดลอง คิดเป็นเหตุเป็นผล

เมื่อเขาพัฒนาวิทยาศาสตร์ขึ้นมา กว่าจะได้เทคโนโลยีอย่างปัจจุบันนี้ จิตใจก็พัฒนามาเป็นจิตใจแบบหนึ่ง ที่เกิดเป็น วัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ คือเป็นวิถีชีวิตของคนที่มีความใฝ่รู้ คิดในทางเหตุผล และชอบทดลอง มันไม่ได้เกิดมาปุบปับเฉยๆ

เทคโนโลยีเกิดมาจากประวัติที่เป็นภูมิหลังอันนี้ ซึ่งอาศัยวิทยาศาสตร์ ที่พลอยสร้างสภาพจิตที่ใฝ่รู้ ชอบคิดเหตุผล

(๒) วิทยาศาสตร์อย่างเดียวไม่พอ จะเอาความรู้วิทยาศาสตร์มาสร้างเทคโนโลยี ต้องผ่านโรงงานอุตสาหกรรม แล้วเทคโนโลยีกับอุตสาหกรรมก็เป็นปัจจัยแก่กัน

พอคิดเทคโนโลยีนี้ขึ้นได้ เทคโนโลยีก็มาเป็นเครื่องมือของอุตสาหกรรม ทำให้อุตสาหกรรมสำเร็จ อุตสาหกรรมก็มาผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีขึ้น และพัฒนาต่อไปอีก เทคโนโลยีเจริญ ก็ช่วยอุตสาหกรรมให้ยิ่งเจริญ

ประวัติการสร้างสรรค์พัฒนาอุตสาหกรรม ก็คือประวัติแห่งความขยันหมั่นเพียร จึงเรียกว่า “industry” แปลว่า อุตสาหะ คือความขยันหมั่น เพียร อุตสาหะ แปลว่า ความอึด ฮึดสู้ ขยัน

คนไทยทั่วๆ ไปไม่เคยคิดว่า อุตสาหกรรม แปลว่าอะไร แต่จะมองในแง่ว่า อุตสาหกรรม ก็คือกลไกในการผลิตสิ่งเสพที่จะอำนวยความสะดวกสบาย แต่ที่แท้ สำหรับฝรั่ง อุตสาหกรรมมีความหมายว่าต้องอึดสู้ ต้องขยัน เขาจึงเรียกมันว่า industry

เป็นอันว่า เทคโนโลยีของฝรั่งที่เจริญมาได้ถึงขนาดนี้ ได้ผ่านภูมิหลังแห่งการเพียรพยายามมาเป็นเวลาสองร้อยกว่าปี ได้ทั้ง วัฒนธรรมวิทยาศาสตร์ ที่ทำให้เกิดความใฝ่รู้ และได้วัฒนธรรมอุตสาหกรรม ที่หล่อหลอมนิสัยสู้สิ่งยาก ขยันหมั่นเพียร

ฝรั่งจึงไม่ได้เทคโนโลยีมาเปล่าๆ

นี่แหละ แค่ความหมายของเทคโนโลยีก็ผิดกันแล้ว ไทยไม่ได้เพียรพยายามเลย อยู่ๆ พรวดเดียวมาเจอสิ่งบำรุงบำเรอความสุขสำเร็จรูป ดังนั้น เทคโนโลยีในความหมายสำหรับคนไทยกับตะวันตกจึงผิดกันมาก

ฝรั่งขนาดมีภูมิหลังแข็งอย่างนี้ มาถึงตอนนี้ สังคมของเขาผ่านพ้นอุตสาหกรรมกลายเป็นสังคมบริโภค เขายังร้องโอดครวญกันเองว่า คนของเขาเสื่อม เดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยขยัน ไม่สู้สิ่งยาก สำรวย หยิบโหย่ง ไม่มีจริยธรรมในการทำงาน ทำให้สังคมของเขากำลังจะเสื่อมลงในด้านคุณภาพ

ขนาดนักผลิตเองยังร้องทุกข์ต่อว่ากันเลย แล้วของเราเป็นนักบริโภคเรื่อยมา จะไม่ยิ่งหนักกว่าหรือ ของเราไม่เคยผ่านเลย ประวัติของการสร้างสรรค์ด้วยความเพียรพยายาม นี่สองแล้วนะ ปัจจัยที่จะทำให้คนไทยอ่อนแอ และเอาแต่สะดวกสบาย

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ประเทศพัฒนา ทั้งที่รู้ปัญหา ก็ไม่กล้าจะแก้วัฒนธรรมน้ำใจ ทำให้อบอุ่นดี วัฒนธรรมตัวใครตัวมัน ทำให้แข่งขันได้ดี >>

No Comments

Comments are closed.