ปัญหาโพธิรักษ์ที่เป็นการทำผิดต่อพระธรรมวินัย และผิดความจริง

20 กรกฎาคม 2533
เป็นตอนที่ 6 จาก 15 ตอนของ

ปัญหาโพธิรักษ์ที่เป็นการทำผิดต่อพระธรรมวินัย และผิดความจริง

บางคนพูดทำนองว่า โพธิรักษ์ถูกกล่าวหาว่าตีความธรรมวินัยผิด โพธิรักษ์ควรมีสิทธิตีความธรรมวินัยอย่างอิสระ ดังนั้น ผู้ที่กล่าวหาว่าโพธิรักษ์ตีความธรรมวินัยผิด จึงกระทำไม่ถูกต้อง

จะต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่า ประการแรก การทำความผิดต่อพระธรรมวินัยและการแสดงความเท็จต่างๆ ในกรณีของโพธิรักษ์นี้ ว่าโดยหลักใหญ่แล้ว ไม่ใช่เป็นเรื่องการตีความพระธรรมวินัย แต่เป็นเรื่องของการเข้าใจผิดหรือกล่าวความเท็จเกี่ยวกับความหมายของถ้อยคำ เป็นความผิดในเรื่องภาษา ซึ่งยังไม่ถึงขั้นที่จะเป็นการตีความอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่งก็เป็นการบิดเบือนพุทธพจน์ บัญญัติลบล้างหลักการของพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นขั้นที่เลยการตีความไปแล้ว

ประการที่สอง ในบางกรณีที่เป็นการตีความพระธรรมวินัย การตีความของโพธิรักษ์จะเป็นปัญหาในเมื่อไม่ใช่เป็นการตีความโดยอิสระ คือท่านทำเกินเลยของเขตของการตีความโดยอิสระไป กลายเป็นตีความตามใจชอบ และที่ร้ายอย่างยิ่งคือ บอกว่าตีความ แต่ที่จริงไม่ใช่เป็นการตีความเลย กลายเป็นการบัญญัติหลักการใหม่ๆ ของท่านเอง หรือบัญญัติหลักการนอกพระพุทธศาสนา เข้ามาล้มล้างหลักการเดิมของพระพุทธศาสนา เข้าทำนองที่ว่า เอาคำว่าตีความบังหน้า แต่ที่จริงคือกำลังดัดแปลงทำร้ายพระพุทธศาสนา

การพูดอย่างนี้ มิใช่เป็นการกล่าวหา หรือเป็นการพูดจารุนแรงอะไรเลย ผู้ที่มีใจเป็นธรรม วางใจเป็นกลาง ไม่ด่วนมองแง่ร้าย แล้วศึกษาเรื่องให้ชัดเจน จะมองเห็นความจริงอย่างนั้น และจะมองเห็นตระหนักด้วยว่า ไม่ว่าท่านโพธิรักษ์จะทำความผิดอย่างนั้น ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ ด้วยความหลงผิด หรือด้วยมีเจตนาแอบแฝงอย่างหนึ่งอย่างใดก็ตาม ผลเสียหายย่อมเกิดขึ้นแก่พระพุทธศาสนาอยู่นั่นเอง และเป็นความไม่ถูกต้องอย่างแน่นอน เรื่องที่จะต้องค้นหาความจริงกันต่อไปก็คือ ท่านทำอย่างนั้น ด้วยความไม่รู้และหลงผิด หรือทำด้วยมีเจตนาร้ายซ่อนเร้น เพื่อวัตถุประสงค์พิเศษอะไร

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< กรณีระหว่างโพธิรักษ์กับชาวพุทธ และผู้รักความจริงทุกคน— แง่ที่ ๑ เข้าใจผิดในถ้อยคำ ไม่ถึงขั้นตีความ >>

No Comments

Comments are closed.