- ทันโลก ถึงธรรม (เหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาพุทธธรรมศิริราช)
- สังคมไทย ใกล้กึ่งพุทธกาล หันหลังให้วัด
- ถึงกึ่งพุทธกาล ในอเมริกา พระพุทธศาสนา โผล่ขึ้นมากับคนรุ่นใหม่
- ตั้งแต่ฮิปปี้โผล่ออกมา อเมริกาวุ่นวายไปนาน
- เรื่องของโลกนี้ ที่แม้ไม่ต้องสนใจ แต่ควรรู้ไว้
- บริโภคนิยมคายพิษภัยออกมา ไม่ช้าก็ชัดว่า เป็นการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน
- ขึ้นสหัสวรรษใหม่ คนเจอโรคระบาดใหม่ รับรองโดยองค์การอนามัยโลก
- บริโภคนิยมว่า กินให้เต็มที่ จะมีสุขเหลือล้น แต่ผลโชว์ว่า คนก็ฉุ โลกก็เน่า
- ฮิปปี้เงียบหาย กระแสนิยมสมาธิขยายยืนยาวต่อมา
- กระแสถึงกัน แต่สังคมห่างกัน
- จะปฏิบัติธรรม พึงเห็นธรรมทั้งระบบ ครบกระบวน ทั้งลำดับขั้นตอน และความสัมพันธ์
- หลักรมณีย์ ที่ลืมเลือนไป ชวนกันฟื้นขึ้นใหม่ ทำทั่วถิ่นไทยให้งามรื่นรมย์
- ปฏิบัติการต้นทาง ไม่ทำ จู่ๆ มาเพียรตอนท้าย อาจกลายเป็นเลื่อนลอย
- ปฏิบัติธรรมให้ครบทั้งระบบ จบถึงจุดหมายของชีวิต
- ปฏิบัติธรรมอย่างง่ายๆ จะได้การพัฒนาที่ยั่งยืน
- ปฏิบัติธรรม ครบระบบ จบกระบวน คือการศึกษา ๓ ออกเป็น ภาวนา ๔
- จุดบอดของมนุษย์อยู่นี่: มีทุกข์ภัยให้ต่อสู้ ก็เจริญขึ้นไป พอสุขสบาย ก็เฉื่อยชาหาความเพลิดเพลิน ก้าวไม่ไหว
- ถ้าความไม่ประมาทมา ไม่ต้องเถียงกันว่า จะดีกว่า หรือจะเก่งกว่า
- งานพุทธธรรม สู่การพัฒนา
- คำปรารภ
ทันโลก ถึงธรรม
(เหลียวหลัง แลหน้า พัฒนาพุทธธรรมศิริราช)
ทางศิริราชนิมนต์ให้เขียนเรื่องตามหัวข้อที่ตั้งไว้ข้างบนนั้น เริ่มต้นด้วย “เหลียวหลัง” ซึ่งก็คือให้เล่าเรื่องเก่าในอดีต แต่อาตมาเวลานี้มีความจำเลือนรางอย่างยิ่ง เหตุการณ์ต่างๆ มากมายส่วนใหญ่ได้หายหมดไปจากความทรงจำ นึกได้ตรงนั้นนิด ตรงนี้หน่อย เห็นเป็นภาพเหตุการณ์บางอย่างชั่วครู่ชั่วขณะผ่านๆ ไป เช่นว่า นานมาแล้ว ใกล้ พ.ศ. ๒๕๐๐ นั้น มีข่าวว่า ที่ศิริราช มีการจัดฝึกสมาธิ ศาสตราจารย์ นพ. โรจน์ สุวรรณสุทธิ ทดลองวัดคลื่นสมองของคนที่นั่งสมาธิ นึกได้แค่นั้น และในภาพหนึ่ง มองเห็นตนเองกำลังเดินเข้าไปข้างหน้าที่ประชุมฟังการบรรยายธรรม ของชุมนุมพุทธธรรมศิริราช และอาจารย์หมอประเวศ วะสี พูดนำแก่ที่ประชุมนั้น
พูดถึงท่านผู้ใหญ่สำคัญมาก ที่เป็นผู้เสนอจัดตั้ง ชุมนุมศึกษาพุทธธรรม (ศิริราช) คือ ศาสตราจารย์ นพ. อวย เกตุสิงห์ อาตมาจำนามของท่านได้แม่น ท่านประจำอยู่ในบรรยากาศของศิริราชในยุคสมัยนั้น แต่อาตมาระลึกเหตุการณ์อะไรๆ เกี่ยวกับตัวท่านไม่ได้ นอกจากเรื่องกว้างๆ ที่รางเลือน เช่น นามของท่านที่ผูกพันกับการแพทย์แผนไทย
อย่างไรก็ดี หลังจากเขียนเรื่องนี้จบไปแล้ว วันหนึ่ง พระครูสังฆวิจารณ์ที่อยู่ใกล้ๆ ได้ค้นหาพบในหนังสือเล่มหนึ่งบอกแหล่งข้อมูลว่า สารศิริราช ปีที่ ๒๒ ฉบับที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๑๓ หน้า ๖๑๓ – ๖๖๘ ลงพิมพ์คำอภิปราย เรื่อง “ธรรมกับการศึกษาแพทยศาสตร์” ที่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ซึ่ง ศาสตราจารย์ นพ. อวย เกตุสิงห์ เป็นผู้นำการอภิปราย และมีอาตมาเป็นผู้หนึ่งที่ร่วมอภิปราย
แล้วอีกไม่ช้าก็มีคำบอกแจ้งมาแต่ไกล จากคุณหมอกาญจนา เกษสอาด ว่าท่านเองได้เป็นผู้ไปนิมนต์อาตมาให้มาแสดงพระธรรมเทศนา ในงานพระราชทานเพลิงศพ ศาสตราจารย์ นพ. อวย เกตุสิงห์
แต่ในเมื่อตัวอาตมาเองจำเรื่องราวได้ไม่ชัดเจน ไม่ปะติดปะต่อ ถ้าพูดบรรยายยืดยาวไป ก็คงได้ความไม่ชัด และเรื่องราวก็จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ จึงไม่ขอพูดอะไรมากมายให้ยาวความ
อย่างไรก็ตาม ที่พอจะพูดได้บ้างก็คือ เมื่อมองกว้างออกไป ชุมนุมพุทธธรรมศิริราชนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้ พ.ศ. ๒๕๐๐ ที่คนเก่าๆ ชาวบ้านเรียกว่าเป็น “กึ่งพุทธกาล” โดยถือกันว่าเป็นเวลาที่พระพุทธศาสนาจะเสื่อมลงไปเรื่อยๆ จนถึงความสูญสิ้นไปในปีที่ครบ ๕๐๐๐
การที่บูรพาจารย์ของศิริราช คือบรรดาอาจารย์แพทย์เก่าก่อนในยุคนั้น ตั้งชุมนุมพุทธธรรมศิริราชขึ้นมาได้ในเวลานั้น แสดงถึงความเป็นผู้นำทางความคิด ที่มิได้ปล่อยตัวไปตามสภาพเสื่อมถอยอ่อนแอของสังคมรอบตัว แต่มีความไม่ประมาท เข้มแข็งจริงจัง พร้อมด้วยความปรารถนาดีต่อพระพุทธศาสนา ต่อสังคมประเทศชาติ เฉพาะอย่างยิ่งต่อนักศึกษา คนหนุ่มสาว และบรรดาประชาชน
No Comments
Comments are closed.