การศึกษาก้าวต่อไป ทำให้คนเข้มแข็ง และความสุขอย่างใหม่ก็เพิ่มขึ้นมา

21 ธันวาคม 2539
เป็นตอนที่ 18 จาก 21 ตอนของ

การศึกษาก้าวต่อไป ทำให้คนเข้มแข็ง
และความสุขอย่างใหม่ก็เพิ่มขึ้นมา

ต่อจากนั้น กระบวนการพัฒนาของชีวิตก็จะเดินหน้าต่อไปอีก กล่าวคือ เมื่อได้เรียนรู้ ก็จะทำให้แยกได้ระหว่างสิ่งที่ดีกับสิ่งที่ยังไม่ดี ระหว่างสิ่งที่สมบูรณ์กับสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์ ระหว่างสิ่งที่อยู่ในภาวะที่ควรจะเป็นกับสิ่งที่ยังไม่เข้าถึงภาวะที่ควรจะเป็น พอแยกได้อย่างนั้นแล้ว เขาก็อยากให้สิ่งนั้นอยู่ในภาวะที่ดี ที่สมบูรณ์ ที่ควรจะเป็น ถึงตอนนี้ก็จะเกิดความอยากหรือความต้องการชนิดใหม่ คือต้องการให้มันดี ให้มันสมบูรณ์ หรือความอยากให้มันดี ที่เรียกง่ายๆ ว่าใฝ่ดี

เมื่ออยากให้มันดี แต่มันยังไม่ดี ก็อยากทำให้มันดี ความอยากทำให้มันดีนี้เรียกว่า ความใฝ่สร้างสรรค์ เมื่ออยากทำให้มันดี ก็พยายามที่จะทำ เมื่อทำด้วยความต้องการที่จะทำ เขาก็จะมีความสุขจากการกระทำ และเมื่อทำให้ดีได้ก็จะยิ่งมีความสุข เรียกว่า ความสุขจากการสร้างสรรค์ ตรงนี้แหละเป็นเป้าหมายของการศึกษา คือ ความใฝ่สร้างสรรค์ และการมีความสุขจากการทำการสร้างสรรค์ ซึ่งหมายถึงการพัฒนาคนให้เกิดความต้องการทำให้ดี และการมีความสุขจากการกระทำที่สนองความต้องการนั้น

จะเห็นว่า ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการต่อเนื่องกัน จากความเป็นนักศึกษาก็พัฒนาต่อมาเป็นนักสร้างสรรค์ และเด็กจะมีความสุขจากการกระทำ เมื่อกระบวนการศึกษาเดินมาถึงขั้นนี้ ก็เหมือนรถเรือที่เดินเครื่องได้ที่และเข้าทิศเข้าทางดีแล้ว เรียกว่าวางใจได้ เพียงแต่คอยดูและคอยเกื้อหนุนไป

จากการกระทำหรือการสร้างสรรค์นั้น เด็กก็จะยิ่งศึกษา ยิ่งเรียนรู้ ยิ่งพัฒนา พร้อมทั้งมีความเข้มแข็งมากขึ้น เขาจะใช้มือและสมองเพื่อการสร้างสรรค์ ขอให้สังเกตดูเถิด คนที่ใช้อินทรีย์เพื่อการเรียนรู้ก็จะใช้มือและสมองเพื่อการสร้างสรรค์ ส่วนคนที่ใช้อินทรีย์เพื่อเสพก็จะใช้มือและสมองเพื่อการแย่งชิงเบียดเบียนกัน นี่เป็นจุดสำคัญที่สังคมไทยจะต้องให้การศึกษาที่ถูกต้อง

ก่อนจะผ่านไป จะต้องย้ำความสำคัญของ “ความอยากทำให้มันดี” นี้ไว้ว่า คุณสมบัติข้อนี้เป็นตราประทับรับรองคุณภาพของคนในขั้นพื้นฐานเลยทีเดียว หมายความว่า เมื่อใครมีคุณสมบัติข้อนี้ ที่เรียกเป็นศัพท์วิชาการว่า “ฉันทะ” ก็เรียกได้ว่าเป็นคนมีคุณภาพ

ความอยากทำให้มันดีนี้ เป็นทั้งหลักประกันสำหรับตัวบุคคลนั้นเองว่า จากคุณสมบัติข้อนี้เป็นจุดเริ่ม คุณสมบัติอื่นๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา และเป็นตราประกันคุณภาพให้แก่สังคมว่า ถ้าคนมีความอยากทำให้มันดีนี้แล้ว ไม่ว่าเขาจะไปทำงานชิ้นใด ตลอดจนทำสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใด ก็จะเป็นงานและเป็นสินค้าแห่งคุณภาพ ถ้าคนไทยมีคุณภาพด้วยคุณสมบัติข้อนี้กันมากๆ สังคมไทยจะเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ในทันที

สรุปว่า การใช้อินทรีย์เป็นเรื่องสำคัญมาก คือเป็นจุดตัดสินในตัวคนว่าการศึกษาจะเริ่มต้นหรือยัง คนผู้อยู่ในขั้นที่ไม่มีการศึกษาก็จะเป็นนักเสพ เมื่อเป็นนักเสพก็จะเป็นนักเสาะ ในความหมาย 2 อย่าง คือ เสาะหาสิ่งมาเสพ เห็นแก่การบริโภค มุ่งหาแต่การบำรุงบำเรอ และใจเสาะ เพราะอ่อนแอเปราะบาง เอาแต่เสพ ไม่สู้งาน ไม่อยากทำอะไร ถ้าต้องทำก็คือทุกข์ แล้วก็จมอยู่แค่นั้น ไม่พัฒนา ตรงข้ามกับนักศึกษาที่จะก้าวต่อไปเป็นนักสร้างสรรค์ ที่อยากทำอะไรๆ ให้มันดีและมีความสุขจากการกระทำ

คนที่ใฝ่สร้างสรรค์ อยากทำอะไรๆ ให้ดี พอพบคนก็อยากให้เขามีหน้าตาดี มีร่างกายสมบูรณ์ ความอยากให้มันดีที่มีต่อคนด้วยกันนี้เรียกว่า เมตตา ต่อจากนั้นก็อยากทำให้สังคมดีงามเรียบร้อยมีความสุข ความอยากให้มันดีหรือตั้งใจดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนี้ จะทำให้มีความสุขชนิดที่ประสานระหว่างตนกับคนอื่น คือตนเองก็มีความสุขจากการกระทำของตน พร้อมกันนั้นการกระทำที่ทำให้ตนเองเป็นสุขนั้นก็เป็นการช่วยเหลือสร้างสรรค์ซึ่งทำให้คนอื่นเป็นสุขด้วย

คนที่มีความใฝ่สร้างสรรค์จะคิดอยู่ตลอดเวลา ที่จะหาทางทำให้โลกหรือสังคมนี้มีแต่สิ่งที่ดีงาม ความปรารถนาดีตั้งใจดีนั้นจะทำให้ตัวเองมีความสุขใจ และพยายามที่จะทำการนั้นให้สำเร็จ เพื่อให้เกิดความสุขแก่ผู้อื่น การมีความคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อให้เพื่อนมนุษย์มีความสุข คือความพร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลนี้ ก็เป็นความเจริญงอกงามอีกขั้นหนึ่งในการศึกษาที่แท้จริง

หัวข้อต่อไปนี้ต้องพูดสั้นๆ เพราะเวลาจะเกินไปมาก

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< การศึกษาเริ่มต้น เมื่อคนเริ่มรู้จักใช้อินทรีย์การศึกษาเริ่มต้น เมื่อคนเริ่มรู้จักดำเนินชีวิตด้วยปัญญา >>

No Comments

Comments are closed.