พัฒนาการทางการเมือง

28 กันยายน 2531
เป็นตอนที่ 5 จาก 13 ตอนของ

พัฒนาการทางการเมือง

ส่วนในด้านการเมืองการปกครองนั้น สถานการณ์จะว่าน่าพอใจก็ยังไม่ได้ เพราะเรายังอยู่ในระยะพัฒนาประชาธิปไตยกัน และเราเองก็ร้องทุกข์กันอยู่ ติติงกันอยู่เสมอว่าเป็นประชาธิปไตยไม่เต็มใบ มองในแง่ผู้บริหารก็ยังไม่ถึงขั้นที่ว่าเป็นที่ยอมรับเชื่อถือจากประชาชนอย่างจริงจัง เรียกง่ายๆ ว่า ยังไม่มีผู้นำที่ประชาชนยอมรับนับถืออย่างแท้จริง และตัวผู้นำเองก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาในหมู่คณะของตัวเองได้ ในกลุ่มผู้บริหารเอง แม้แต่ผู้นำบางคนที่ทำให้ประชาชนเห็นว่าเป็นคนซื่อสัตย์สุจริต แต่ผู้ที่อยู่แวดล้อมไม่เป็นที่ศรัทธา ประชาชนก็ไม่ไว้ใจ เพราะฉะนั้น จึงมีความรู้สึกกันอยู่ทั่วไปในทางที่ไม่ดีต่อผู้บริหาร โดยเฉพาะนักการเมืองทั่วไปมักมีภาพในความรู้สึกของประชาชนว่าเป็นคนไม่ค่อยสะอาด นี่เป็นการพูดถึงว่าประชาชนมองอย่างไร ไม่ได้เอาทรรศนะของตัวเองเข้าว่า พูดง่ายๆ ก็คือ ประชาชนยังไม่มีความเชื่อมั่นต่อนักการเมืองที่เข้ามา ผู้บริหารไม่ใช่เป็นคนที่ประชาชนยอมรับนับถือมาก่อน ไม่มีต้นทุนมาก่อน เพราะฉะนั้น ความยอมรับนับถือและความเชื่อมั่นนั้น เป็นสิ่งที่นักการเมืองจะต้องสร้างเอาเอง และประชาชนก็คงรออยู่

หันมาดูประชาชนเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจประชาธิปไตยเพียงพอ ยังมีการซื้อเสียงกันอย่างมากมายในการหาเสียงเลือกตั้ง อันนี้ก็แสดงว่าประชาธิปไตยหรือระบอบการปกครองของเรายังไม่ได้ผลดีแน่ๆ เพราะแก้ปัญหาระดับพื้นฐานนี้ยังไม่ได้ การเลือกตั้งนี้เป็นแกนใหญ่ เป็นตัวหลักการสำคัญของการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่ว่าให้ประชาชนเลือกตั้งนักการเมืองเข้ามา ตั้งตัวแทนเข้ามา แต่ประชาชนจำนวนมากก็ไม่ได้เอาสติปัญญา ไม่ได้เอาเป้าหมายของการปกครองหรือเอาความเข้าใจในการปกครองที่ดีมาเป็นหลักในการเลือกตั้ง แต่ไปมุ่งเอาทรัพย์สินเงินทองผลประโยชน์ส่วนตัว ก็ทำให้คุณภาพของประชาชนไม่ดีด้วย ในเมื่อนักการเมืองก็ยังล่อลวงประชาชนให้กระทำในสิ่งที่ผิดหลักการ และประชาชนก็ยังไปสมคบกับนักการเมืองที่เอาอามิสไปให้ แล้วจะเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจได้อย่างไร ถ้ายังอยู่ในสภาพอย่างนี้ ก็ต้องพัฒนาประชาธิปไตยกันต่อไปอีกนาน

สภาพการเมืองในปัจจุบัน ที่พูดกันว่าเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว ก็ยังเห็นว่ากันอยู่ ตอนหาเสียงเข้ามานี้ก็ยังมีปัญหา พรรคการเมืองก็ด่าว่าติเตียนกันเองว่า พรรคนั้นพรรคนี้ใช้วิธีที่ไม่สะอาด อย่างนี้ก็ชัดอยู่ ในหมู่ผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามาด้วยกันก็ยังว่ากันเองอย่างนี้ ก็แสดงว่าความไม่เรียบร้อยมีชัดอยู่แล้ว เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้ามาด้วยวิธีการนี้ ก็เป็นเรื่องที่ยังไม่น่าสบายใจ คนก็ยังเพ่งมองและมีความรู้สึกไม่ค่อยดีต่อหลายคนที่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ภาพนักการเมืองในสายตาทั่วไปยังไม่ค่อยให้ความเชื่อถือเท่าไร ยิ่งเอาคนที่ได้รับการเลือกตั้งเหล่านี้เข้าไปเป็นผู้บริหาร ก็ได้เห็นประชาชนมีความไม่พอใจแสดงออกกันในลักษณะต่างๆ ในระดับต่างๆ อย่างเช่นบางกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับปัญญาชน ปัญญาชนก็แสดงชัดว่าไม่พอใจ แสดงว่ายังมีความไม่พอใจ หรือไม่เลื่อมใสอยู่ค่อนข้างกว้างขวาง ความเชื่อถือต่อผู้นำก็ยังไม่เกิด ถ้าหากผู้บริหารชุดนี้จะมีความสามารถก็ต้องพยายามสร้างตัวเอาใหม่ อยู่ในระยะที่ต้องสร้างตัวและพิจารณาตัวเอง เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าจะมีความดีและทำได้สำเร็จแค่ไหน แต่ฐานะที่มีอยู่นี้ยังไม่มั่นคงพอ ความเชื่อถือในจิตใจคนยังมีน้อยรวมความว่า ยังอยู่ในยุคที่นักการเมืองจะต้องพยายามในการที่จะสร้างความยอมรับนับถือ ความไว้วางใจ และศรัทธา ขึ้นในจิตใจของประชาชน ซึ่งเป็นงานที่หนักแต่ก็ท้าทาย และในการสร้างศรัทธานี้ สิ่งสำคัญแรกสุดก็คือ อย่าฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์จากความไม่พร้อมของประชาชน แต่จะต้องช่วยสร้างความพร้อมในทางการเมืองแก่ประชาชน ซึ่งก็จะเป็นการสร้างตนเองให้ได้รับศรัทธาที่แท้จริงไปด้วยพร้อมกัน

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< พร้อมหรือยังกับการเป็น “นิกส์”ศาสนากับสังคม >>

No Comments

Comments are closed.