ศาสนาตะวันออกเข้าอเมริกา

10 กรกฎาคม 2525
เป็นตอนที่ 4 จาก 20 ตอนของ

ศาสนาตะวันออกเข้าอเมริกา

อาตมาจะเล่าสักกรณีหนึ่งเป็นตัวอย่างให้เห็นว่า ความสนใจในศาสนาตะวันออก หรือเรื่องทางจิตใจที่เข้าไปในสังคมอเมริกานั้นเป็นอย่างไร ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีอาจารย์ผู้หนึ่งคือ โปรเฟซเซอร์ฮาร์วี่ คอกซ์ สอนอยู่ที่ Divinity School หรือคณะศาสนศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนั้น ท่านผู้นี้ได้เห็นปรากฏการณ์ในทางสังคม ที่เด็กหนุ่มสาวอเมริกาสนใจในศาสนาตะวันออกกันมากก็รู้สึกว่าขัดใจ คือ ท่านผู้นี้ไม่ชอบใจเลย เห็นว่าศาสนาตะวันออกนี้จะนำคุณค่าทางจิตใจที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบสังคมอเมริกันเข้าไป และจะก่อให้เกิดผลในทางเสื่อมเสีย เพราะท่านผู้นี้มีแนวความคิดที่เน้นในทางสังคมว่าจะต้องพยายามแก้ปัญหาสังคม เช่น ความอยุติธรรมในสังคมเป็นต้น ด้วยวิธีปฏิบัติการทางสังคมแบบออกเผชิญ ท่านเห็นว่า ศาสนาตะวันออกจะนำคุณค่าที่มองแต่ด้านในเข้าไปเผยแพร่ แล้วก็จะทำให้คนหลีกลี้ปลีกตัวออกจากสังคม ไม่สนใจปัญหาสังคม ท่านจึงมีทัศนคติไม่ดี รู้สึกไม่พอใจ แล้วก็คิดว่าจะต้องนำเอาแนวโน้มที่ไม่ดีไม่งามเชื้อร้ายนี้ออกมาตีแผ่ให้รู้กัน ท่านคิดว่าท่านควรปฏิบัติอย่างไร แล้วก็ตกลงว่าท่านจะต้องเข้าไปใกล้ชิด เข้าให้ถึงพวกขบวนการเหล่านี้ ไปมองดูให้ชัด เพื่อจะได้นำเอาข้อเสียออกมาชี้แจงให้ประชาชนได้มองเห็น

ที่เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดนั้น ก็มีสำนักหรือขบวนการศาสนาตะวันออกเหล่านี้อยู่มากมาย โปรเฟซเซอร์คอกซ์ก็เลยคิดว่าท่านจะต้องไปสำรวจตามสำนักเหล่านั้นให้เห็นอย่างใกล้ชิด ท่านบอกว่าที่เมืองเคมบริดจ์นั้นในช่วงถนนเพียง ๒๐ บล๊อค หรือ ๒๐ ช่วงตึกนี่ มีสำนักขบวนการศาสนาตะวันออกทั้งหมด ๔๐-๕๐ สำนัก นับว่าเป็นจำนวนมากเหลือเกิน ท่านก็เลยขอเรียกเมืองเคมบริดจ์นี้ว่าเป็นเมือง Benares-on-Charles1 เบนาเรส แปลว่าเมืองพาราณสี เมืองพาราณสีอยู่ในอินเดีย เป็นศูนย์กลางลัทธิศาสนาของอินเดีย เมืองเคมบริดจ์นี้ก็มีสภาพคล้ายเมืองพาราณสี เพราะฉะนั้นท่านก็เลยเรียกเมืองเคมบริดจ์นี้ว่าเป็นเมืองพาราณสีบนแม่น้ำชารลส์ ท่านตั้งต้นโดยหานักศึกษามาร่วมพากันเข้าไปสังเกตการณ์ใกล้ชิดในสำนักขบวนการเหล่านี้ ไปดูการปฏิบัติ ดูแนวความคิดอะไรต่างๆ เพื่อให้เห็นอะไรต่ออะไรชัดขึ้น ท่านลงไปศึกษาสังเกตไปสังเกตมาพักหนึ่ง ท่านก็บอกว่ามันไม่พอ การที่ไป observe คือสังเกตอย่างเดียวไม่พอ มันต้องไป participate หรือเข้าร่วมด้วย เข้าร่วมนี้จะเห็นได้ชัดเจน เขาทำสมาธิ เขาเต้น เขาทำอะไรก็ร่วมทำด้วยหมด ต่อมาท่านก็เห็นอีกว่า participate คือเข้าร่วม ก็ยังไม่พอ จะต้องไปให้ถึงแหล่งทีเดียว สำนักใหญ่ๆ ก็อยู่ในที่ต่างๆ เช่น สำนักของทิเบตก็มีสาขาหนึ่งอยู่เมืองโบลเดอร์ รัฐโคโลราโด ชื่อ Naropa Institute สถาบันนาโรปะนี้เป็นศูนย์กลางพุทธศาสนานิกายลามะของทิเบตพวกหนึ่งเท่านั้น ที่นั่นก็มีการศึกษาพุทธศาสนา ตอนนี้กำลังให้ถึงปริญญาโท แล้วท่านโปรเฟซเซอร์คอกซ์นี่ก็รับเชิญไปสอนที่สถาบันนาโรปะนี้ด้วย ท่านก็เลยได้มีโอกาสไปสังเกตดู ศึกษาและปฏิบัติอย่างใกล้ชิด ท่านได้เรียกเมืองโบลเดอร์ ในโคโลราโดนี้ว่า Tibet in-the-Rockies หมายความว่าเป็น ประเทศทิเบตที่อยู่ในเทือกเขารอคกี้ ไม่ใช่ทิเบตจริงภูเขาหิมาลัย

จากการที่ได้สังเกต และเข้าร่วมศึกษาปฏิบัติด้วยตนเองเป็นระยะเวลายาวนานนี้ ในที่สุดก็เกิดเห็นคุณค่าขึ้นมา ความคิดเดิมนั้นเป็นการตั้งใจจะจับผิด แต่แล้วท่านเกิดได้เห็นคุณค่า ท่านจึงเข้าใจว่า ทำไมเด็กสมัยใหม่ในสังคมอเมริกันจึงหันไปสนใจศาสนาตะวันออก ท่านได้เห็นว่ามันมีคุณค่าที่ดีงาม ซึ่งท่านเองก็ได้รับประโยชน์ และยังได้รับเอามาใช้เป็นข้อปฏิบัติประจำในชีวิตของตนเองด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ท่านไม่ยอมรับแนวโน้มของเด็กรุ่นใหม่ทั้งหมด และเห็นว่าการรับของเด็กเป็นไปในทางที่มีความตื่นเต้นมาก บางพวกก็มีลักษณะเป็นแฟชั่นหรือกระเดียดไปในทางลุ่มหลง และอาจจะจับไปใช้ในทางที่ผิด ท่านเห็นว่าศาสนาตะวันออกหรือขบวนการเหล่านั้น มีสิ่งที่เป็นประโยชน์ดีอยู่มาก แต่ต้องนำไปประยุกต์เข้ากับวัฒนธรรมของอเมริกาอย่างเหมาะสม และถ้าทำสำเร็จก็จะเกิดประโยชน์เป็นอันมาก แต่ว่าโดยสาระสำคัญก็คือ เป็นอันว่าท่านยอมรับว่ามันมีดี

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมานี้ พวกนักการศาสนา นักจิตวิทยา นักสังคมวิทยาที่สนใจศึกษาเรื่องนี้อย่างโปรเฟซเซอร์คอกซ์นั้น ได้มีการจัดสัมมนา มีการประชุมทางวิชาการอะไรต่างๆ เป็นครั้งคราว เพื่อที่จะวิเคราะห์เรื่องราวเหล่านี้ ซึ่งโดยสรุปก็เห็นกันว่า ความคิดของตะวันออกเหล่านี้จะต้องเข้าสู่วัฒนธรรมอเมริกัน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญต่อไป วัฒนธรรมอเมริกันนี้จึงอยู่ในระยะที่จะเกิด cultural transformation คือจะต้องมีการแปรรูปไป ซึ่งท่านได้ตั้งข้อสังเกตให้เห็นว่า การที่ศาสนาตะวันออกเข้าไป ได้มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางเพียงไร แม้แต่วัดในศาสนาคริสต์จำนวนมากมายก็ได้รับเอาวิธีการฝึกสมาธิของศาสนาตะวันออกเหล่านี้เข้าไว้ปฏิบัติในสำนักของตน ท่านเขียนไว้ว่า ชั่วระยะหลายปีที่ผ่านมา การบำเพ็ญสมาธิแบบตะวันออกได้ถูกรับเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของข้อวัตรปฏิบัติของคริสต์ศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ ในสำนักบำเพ็ญพรตหรือวัดในคริสต์ศาสนา ตั้งแต่รัฐเมน Maine จนถึงรัฐนิวเมกซิโก New Mexico (รัฐ Maine ถึงรัฐ New Mexico ก็คือทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะรัฐ Maine นี้อยู่ตะวันออกเฉียงเหนือสุด New Mexico อยู่ตะวันตกเฉียงใต้สุด การพูดอย่างนี้เป็นสำนวน หมายความว่าทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา) คณะนักบวชโรมันคาทอลิคได้เริ่มจัดเอาวิธีนั่งสมาธิ ไม่แบบใดก็แบบหนึ่งเข้าไปรวมไว้ในตารางพิธีบูชาประจำวัน แม้แต่ศูนย์คริสตจักรกรุงวาติกันเอง ในวารสารของสำนักเลขาธิการ ก็ได้มีการแนะนำวิธีการให้ผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ เรียนวิธีบำเพ็ญสมาธิภาวนาในพระพุทธศาสนา เอาไปดัดแปลงใช้ในคริสต์ศาสนา ที่วิทยาลัยแสงธรรม ซึ่งเป็นที่ผลิตบาทหลวงในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่สามพราน ตอนนี้ก็มีการสอนพุทธศาสนาหลายวิชา และก็มีวิชาหนึ่งคือการฝึกปฏิบัติสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานด้วย หมายความว่า ผู้ที่จะเป็นนักบวชโรมันคาทอลิค เป็นบาทหลวง ต่อไปนี้จะได้ร่ำเรียนศึกษาสมถวิปัสสนาด้วย

การที่ศาสนาตะวันออกเข้าไปมีอิทธิพลเผยแพร่โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่นี้ ย่อมกระทบต่อสังคมอเมริกันมาก โดยเฉพาะมันจะเกิดมีคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ขึ้น คนรุ่นเก่าหรือพวก traditional ก็จะเกิดมีความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ โดยเฉพาะพวกพ่อแม่ซึ่งบางทีลูกของตัวถึงกับหนีออกจากบ้านไป แล้วก็ไปอยู่ในสำนักเหล่านั้น บางเรื่องต้องฟ้องร้องกันเป็นคดีถึงโรงศาล แล้วก็มีคนพวกหนึ่งที่ฝึกตัวเองขึ้นมารับจ้าง ในการที่จะไปดึงเอาพวกเด็กๆ เหล่านี้กลับมา พวกนี้เขาเรียกว่าพวกดีโปรแกรมเมอร์ Deprogrammer อาตมภาพเปิดพจนานุกรม Dictionary ยังไม่มีศัพท์นี้ เป็นศัพท์ใหม่ คือเป็นวิธีการถอนความคิดความเชื่อถือที่เขาเอามาใช้กับพวกเด็กที่หันไปนับถือศาสนาตะวันออก ให้หันกลับไปเข้าสังคมอเมริกัน เช่นมีคดีเด็กสาวคนหนึ่ง หนีจากแม่ไปอยู่ในสำนักหริกฤษณะ และแม่จ้าง Deprogrammer ไปเอากลับมาแล้ว ก็พากลับมาได้ เด็กยอมรับ บอกว่าตัวเขาหลงผิดไปแล้วต่อไปนี้จะกลับเข้าสังคมเดิม แต่เสร็จแล้วกลายเป็นเด็กหลอก พอปล่อยแล้วเด็กก็กลับไป เข้าสำนักหริกฤษณะอีก แถมยังฟ้องแม่กับดีโปรแกรมเมอร์ว่า Kidnap คือลักพาตัวเขา เรื่องขึ้นศาลก็เป็นคดีขึ้นมา แต่อัยการตั้งคดีขึ้นมาใหม่อีกคดีหนึ่งว่า หริกฤษณะนี้ทำ mind control ซึ่งก็ใกล้จะเป็น brain washing คือบังคับจิต ใกล้ๆ กับล้างสมอง ซึ่งจะเป็นการผิดรัฐธรรมนูญ เรื่องไปถึงศาลสูงสุด ตัดสินว่าหริกฤษณะไม่เป็นการบังคับจิต (mind control) เรื่องราวอย่างนี้ เป็นปรากฏการณ์ของสังคมอเมริกาที่แสดงถึงการที่ศาสนาตะวันออกเข้าไปมีอิทธิพลในสังคมตะวันตก เดี๋ยวนี้ศัพท์ต่างๆ ทางตะวันออกเข้าไปสู่ Dictionary ของฝรั่งเป็นอันมากแล้ว ศัพท์อย่างคำว่า พุทธ ธรรมะ สังฆะ (Buddha, Dharma, Sangha) อะไรนี้ เป็นศัพท์ที่ใช้ในสังคมอเมริกันได้แล้ว ตอนนี้ถ้าเราจะพูดว่าสังฆะคือสงฆ์ (Sangha) นี่ ถ้าคนอเมริกันคนไหนไม่รู้ เราสามารถเรียกร้องต่อเขาว่า ท่านต้องไปศึกษาเอาเอง หมายความว่าเขากลายเป็นคนไม่รู้เท่าทันสถานการณ์

คราวนี้จะต้องศึกษาต่อไปว่า ความเป็นมาเบื้องหลังของสภาพสังคมอเมริกันที่เป็นอย่างนั้นนะ มันเป็นอย่างไร หรือสังคมอเมริกันอย่างนั้นน่ะ มีเบื้องหลังความเป็นมาอย่างไร ทำไม Young Americans จึง turn East (ทำไมหนุ่มสาวอเมริกันจึงหันไปตะวันออก) แล้วก็ทำไมความสุขความพรั่งพร้อมในสังคม จึงนำไปสู่การฆ่าตัวตาย นำไปสู่การใช้ยาเสพติดอะไรเหล่านั้น

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< สภาพสังคมอเมริกันสืบภูมิหลังของอเมริกา >>

เชิงอรรถ

  1. ความช่วงนี้ ดู Harvey Cox, Turning East (New York : Simon and Schuster, 1977), 192 pp.

No Comments

Comments are closed.