จะอยู่อย่างเป็นเหยื่อ หรือขึ้นเหนือไปนำเขา

1 ตุลาคม 2538

…ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญก็คือ คนที่แข่งขันกัน ก็เพื่อหาผลประโยชน์ และผลประโยชน์นั้นจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องไปเอาจากทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา เพราะมนุษย์จะมีสิ่งสำหรับเอามาเสพบริโภคที่เรียกว่าผลประโยชน์นั้น ก็ต้องไปเอาจากธรรมชาติ

เมื่อแข่งขันมาก ก็ไปด้วยกันกับการบริโภคมาก เมื่อต้องบริโภคมาก ก็เอาจากธรรมชาติมาก ธรรมชาติก็ยิ่งเสื่อมโทรม เพราะ

๑. ทรัพยากรก็ร่อยหรอ

๒. มีการระบายของเสียมาก… เมื่อผลิตมาก ก็ต้องระบายมลภาวะมาก และเมื่อบริโภคมาก ก็เกิดขยะมาก

ฉะนั้น ธรรมชาติแวดล้อมก็เสื่อมโทรมและเสียไป…

…เวลานี้ปัญหาเหล่านี้หนักมาก แต่จะแก้ไขอย่างไร เพราะเกิดภาวะขัดแย้งขึ้นมาในตัวว่า ถ้าตัวอยู่ในระบบแข่งขันหาผลประโยชน์ต่อไป ก็คือการทำลายธรรมชาติ แต่ถ้าตัวหยุดไม่ทำลายธรรมชาติแวดล้อม ก็คือการที่ตัวเองจะต้องไม่ประสบความสำเร็จในระบบแข่งขัน

…สิ่งที่ค้ำคออยู่ ก็คือผลประโยชน์และอำนาจ…

…ทั้งๆ ที่ว่าการแข่งขันแย่งชิงผลประโยชน์นั้นเป็นการทำลายโลก ตัวเองก็ต้องเอาเพื่อความยิ่งใหญ่ของตนเอง จึงเป็นปัญหากลืนไม่เข้าคายไม่ออก

เมื่อแข่งขันกันอยู่ในระบบของโลกนี้ การจะเป็นผู้ชนะได้ในระบบแข่งขัน ก็ต้องได้ผลประโยชน์มาก การจะได้ผลประโยชน์มาก ก็ต้องมีผู้บริโภค ที่จะเป็นผู้ซื้อ

ในทางเศรษฐกิจ จึงต้องปลุกกระตุ้นให้ผู้เสพผู้บริโภคนั้น บริโภคให้มาก

อย่างในเมืองไทยนี้ เมื่อเราเสพบริโภค ลุ่มหลงในวัตถุกันมาก ก็จะเกิดผลประโยชน์แก่เขามาก คือ ผู้ผลิตผู้ขายก็ได้ผลประโยชน์ไป เขาก็ได้ทรัพย์มาก แล้วอำนาจของเขาก็ยิ่งมีมาก

เราก็เป็นเหยื่อป้อนผลประโยชน์ให้เขา และค้ำจุนอำนาจของเขา โดยที่นึกภูมิใจว่าตัวเองสะดวกสบายได้บริโภคได้เสพมาก แต่ที่จริงก็คือ สร้างผลกำไรให้เขา และอยู่ใต้อำนาจของเขา ถูกเขากำกับและกำหนด พร้อมกันนั้น ตัวเองก็บริโภคทรัพยากรมาก ซึ่งเป็นการทำลายธรรมชาติแวดล้อม ร่วมกันทั้งสองฝ่าย

 

สารบัญ – จะอยู่อย่างเป็นเหยื่อ หรือขึ้นเหนือไปนำเขา

No Comments

Comments are closed.