- สังคมเป็นอย่างไร จึงแทบไม่มีใครพูดถึงในแง่ดี
- สังคมเข้าสู่ยุคโลกาภิวัตน์ คนต้องขึ้นสู่ความเป็นโลกัตถจารี
- จะแก้ปัญหาของสังคมไทย ต้องสืบสาวให้รู้และแก้ให้ตรงกับเหตุปัจจัย
- ถ้าขืนอยู่กับค่านิยมเสพบริโภคและชอบพึ่งอำนาจดลบันดาล สังคมไทยจะก้าวไม่ไหว เพราะไม่มีแรงแม้แต่จะคลาน
- มัวรออำนาจดลบันดาลทำให้ พลเมืองก็ไม่พัฒนา ประชาธิปไตยก็ยิ่งถอยห่างไปไกล
- ผู้นำที่ดี ไม่ใช่ผู้ที่คอยช่วยเหลือเขา แต่ผู้นำที่ดี คือผู้ที่ทำให้เขาพึ่งตนเองได้
- แม้แต่จะปฏิบัติต่อเทวดา ก็ต้องรู้ว่าทางสายกลางอยู่ตรงไหน
- ประเทศเป็นประชาธิปไตย ประชาชนต้องถือธรรมเป็นใหญ่
- ประเทศชาติไม่มีทางพัฒนา ถ้าประชาชนไม่มีคุณภาพ
- เลิกความอ่อนแอของนักเสพบริโภค และเร่งพัฒนาความเข้มแข็งทางปัญญา สังคมไทยจึงจะก้าวไปทันและนำเขาได้
- ฝรั่งว่าอย่างไร ก็ฟังให้รู้ไว้ แต่ต้องวิเคราะห์วิจัยให้เลยจากที่ฝรั่งติดตันออกไป
- ถอนตัวขึ้นมาจากปลักเลนแห่งลัทธิรอผลดลบันดาล แล้วลืมตาขึ้นมา มองให้กว้าง-คิดให้ไกล-ใฝ่ให้สูง
- ระวัง! การศึกษาที่แท้เพื่อพัฒนาคนไทย หรือการศึกษาเทียมเพื่อลดคุณภาพคนไทย
- บทบาทสำคัญของพ่อแม่ แน่แท้คือการช่วยให้ลูกศึกษา
- พอลูกลืมตาดูโลก พ่อแม่ก็เริ่มแสดงบทบาทแรก
- ทางสองแพร่งแห่งชะตากรรมของโลก เลี้ยงลูกเพื่อสร้างโลก หรือสร้างลูกไปล้างโลก
- การศึกษาเริ่มต้น เมื่อคนเริ่มรู้จักใช้อินทรีย์
- การศึกษาก้าวต่อไป ทำให้คนเข้มแข็ง และความสุขอย่างใหม่ก็เพิ่มขึ้นมา
- การศึกษาเริ่มต้น เมื่อคนเริ่มรู้จักดำเนินชีวิตด้วยปัญญา
- การศึกษาได้ผล เมื่อคนเริ่มรู้วิชาจัดการ
- การศึกษาจบสมบูรณ์ เมื่อประโยชน์ตนถึงที่หมาย กลายเป็นประโยชน์สุขของสังคม
ประเทศชาติไม่มีทางพัฒนา
ถ้าประชาชนไม่มีคุณภาพ
เวลานี้มีคนพูดเป็นคติในเรื่องเทพเรื่องไสยว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” นั้นก็ถูกต้อง ไม่ได้ปฏิเสธ พุทธศาสนิกชนไม่ใช่แค่ไม่ลบหลู่ แต่ถึงกับแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทวดาด้วยซ้ำไป คำว่า “ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่” ถูกต้องแล้ว แต่จะต้องเติมต่อให้เต็มว่า “ถึงเชื่อก็ต้องเรียนรู้” และ “ถึงไม่ลบหลู่ก็ไม่รอความช่วยเหลือ”
มนุษย์ต้องไม่รอคอยความช่วยเหลือจากเทวดา แต่ต้องรีบทำการตามเหตุปัจจัยให้เต็มความสามารถ มิฉะนั้นมนุษย์ก็จะไม่พัฒนา พระพุทธศาสนาสอนเรื่องนี้ไว้ชัดเจน ถ้ามนุษย์ไม่เพียรพยายามทำการให้สำเร็จ ก็คือไม่พัฒนาตัวเอง แล้วก็จะจมอยู่อย่างนี้ ไม่ไปไหน แต่ถ้าเราสู้ปัญหา เจอปัญหาไม่โยนไปให้เทวดาแก้ ตัวเองพยายามคิดแก้ การคิดแก้นั้นก็จะทำให้เกิดปัญญา กว่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จ ตัวเองก็ได้พัฒนาไปมาก ปัญญาก็เกิดขึ้นมาก ถ้าเรายังคิดไม่สำเร็จ ลูกของเราก็มาคิดต่อ ลูกคิดไม่สำเร็จ หลานก็มาคิดต่อ สังคมก็มีการพัฒนา สังคมที่จะพัฒนามาได้ก็เพราะเจอปัญหาแล้วพยายามดิ้นรนหาทางแก้ไขกันมา
ในการพัฒนาสังคมไทยตามหลักพระพุทธศาสนา ขอสรุปจุดเน้นที่การพัฒนาคนให้มีคุณสมบัติพื้นฐานดังนี้
1. ถือหลักทำการให้สำเร็จด้วยความเพียรพยายาม ที่เรียกว่า หลักกรรม
2. ถือหลักเรียนรู้ฝึกฝนพัฒนาชีวิตให้ดียิ่งขึ้นเรื่อยไป ทั้งทางพฤติกรรม ทางจิตใจ และทางปัญญา ที่เรียกว่า หลักไตรสิกขา
3. ถือหลักทำการทั้งหลายอย่างเร่งรัดไม่รอเวลาด้วยความไม่ประมาท ที่เรียกว่า หลักอัปปมาทะ
4. ถือหลักทำตนให้เป็นที่พึ่งเพื่อพึ่งตนเองได้และเป็นอิสระ ที่เรียกว่า หลักอิสรภาพแห่งการพึ่งตนได้
หลักการดังกล่าวมานี้ ชาวพุทธต้องถือปฏิบัติอย่างจริงจังมั่นคง และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นในสังคมต้องพยายามช่วยกันแก้ปัญหา การช่วยกันแก้ปัญหาจะทำให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้นมาเอง
No Comments
Comments are closed.