ถ้ายังเอาความศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องคิดให้ทางเลือกที่ถูกหลัก

22 มกราคม 2536
เป็นตอนที่ 17 จาก 41 ตอนของ

ถ้ายังเอาความศักดิ์สิทธิ์
ก็ต้องคิดให้ทางเลือกที่ถูกหลัก

ข้อสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ ความหมายของความศักดิ์สิทธิ์ก็ต่างกัน การจะเข้าสู่หลักกรรมและหลักไตรสิกขาพัฒนาตน ต้องเปลี่ยนจากความศักดิ์สิทธิ์แบบฤทธิ์กิเลส มาเป็นฤทธิ์ของธรรม

ท่านที่รู้หลักบอกว่า เอาละ เธอนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือ ไม่เป็นไร พระพุทธเจ้าศักดิ์สิทธิ์กว่า

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายนอก เช่นพวกเทพเจ้าต่างๆ นั้น เขาศักดิ์สิทธิ์โดยฤทธิ์เดชปาฏิหาริย์ ที่เป็นไปด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง

เทวดาโกรธกัน โลภแย่งกามกัน หึงหวงคู่ครองกัน จะทำลายกัน ก็แสดงฤทธิ์กัน ต้องมีสิบมือ พันมือ มีคทา มีอาวุธ มีจักร อะไรต่างๆ มากมาย แสดงฤทธิ์เดชกัน เต็มไปด้วยความโกรธ เต็มไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ แย่งอำนาจกัน อวดความยิ่งใหญ่ แสดงหน้าตาท่าทางให้ดุร้าย คุกคาม ผาดโผนโจนทะยาน น่าตื่นเต้นหวาดกลัว

แต่พอเข้ามาในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้า ตลอดทั้งพระรัตนตรัยทั้งหมด เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าเหล่านั้น แต่ไม่มีกิเลส พระพุทธรูปของเรานี้ นั่งสงบ แย้มยิ้มอย่างสดชื่นร่มเย็น มีแต่เมตตา มีแต่ความบริสุทธิ์ นี่คือความศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริง

นี่คือการพัฒนามนุษย์ จากความเชื่อถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยกิเลสมาสู่ความบริสุทธิ์ เพราะในที่สุดแล้ว ความศักดิ์สิทธิ์นั้น อยู่ที่ความบริสุทธิ์ อยู่ที่ปัญญา อยู่ที่ความไร้ทุกข์ ไร้กิเลส

พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้บริสุทธิ์ มีพระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาคุณ จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าเทพเจ้าที่มีฤทธิ์เดชแห่งกิเลสเหล่านั้น ความศักดิ์สิทธิ์นี้พัฒนาขึ้นมาสู่ความบริสุทธิ์ พัฒนาจากกิเลสมาสู่แนวทางที่เป็นจริยธรรมมากขึ้น

ชาวพุทธกราบไหว้พระพุทธรูปด้วยความรู้สึกรำลึกคุณความดี และมีความร่มเย็นชื่นบาน ไม่ใช่กราบไหว้เพราะกลัวฤทธิ์เดช การสาปแช่งดลบันดาล หรือหวังผลลาภลอย

พร้อมกับความศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์นั้น ก็คือความเชื่อมั่นในการทำความดี โดยหวังผลจากการกระทำด้วยความเพียรพยายาม โดยมีความมั่นใจและมีกำลังใจในการกระทำมากขึ้น ไม่ใช่หวังผลจากการดลบันดาล ได้แต่คอยอ้อนวอนขอผลประโยชน์จากเทพเจ้า

ถ้ามองเห็นแนวทางในการพัฒนามนุษย์อย่างนี้ ก็จะจับหลักได้ แม้แต่จะเชื่อเครื่องรางของขลัง ก็ขอให้มีหลักและเห็นทางที่จะเดินหน้า แล้วเราจะเห็นความแตกต่าง ระหว่างความศักดิ์สิทธิ์ในพระพุทธศาสนา กับความศักดิ์สิทธิ์ภายนอก

แต่รวมความแล้ว มันก็คือขั้นตอนในการชักจูงมนุษย์ขึ้นไปในวิถีของการพัฒนาให้ดีขึ้น เราจะชักคนพรวดเดียวขึ้นมาให้ถึงสาระและจุดหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนาโดยสมบูรณ์นั้น ไม่ไหว เราทำไม่ได้

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ไม่ใช่สอนเอาใจเขา แต่สอนนำเขาเข้าหาหลักไม่ใช่เอาใจเขา แต่เราทำอย่างรู้หลัก และไม่ใช่คิดจะเอาจากเขา แล้วมอมเมาให้เขวจากหลัก >>

No Comments

Comments are closed.