- คำนำ
- ปรับท่าทีและทำความเข้าใจกันก่อน
- วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความสดใสที่แฝงความสับสน
- เมื่อวิทยาศาสตร์แปลกหน้ากับธรรมชาติ
- วิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยี เพื่อนเก่าที่จะต้องเข้าใจกันให้ดี
- ก้าวถึงสุดแดน แต่ก็รู้ไม่จบ
- คุณค่าและความคิดที่ผลักดัน เบื้องหลังกำเนิดและพัฒนาการของวิทยาศาสตร์
- เบื้องหลังความเจริญ คือเบื้องหลังความติดตัน
- ศาสนากับวิทยาศาสตร์ เริ่มร่วมแล้วร้างเริด
- ศาสนากับวิทยาศาสตร์ ความแตกต่างที่ไม่ห่างจากความแม้นเหมือน
- ความสดใสที่ไม่พ้นความสับสน
- วิทยาศาสตร์เดียว ศาสนาเดียวหรือศาสนากับวิทยาศาสตร์ที่เป็นหนึ่งเดียว
- เมื่อความมั่นใจในวิทยาศาสตร์สั่นคลอน แม้แต่ศาสนาแห่งการอ้อนวอนก็เฟื่องฟูได้
- มนุษย์จะประสบคุณค่าสูงสุดได้ ต้องให้วิทยาศาสตร์กับศาสนาบรรลุจุดบรรจบ
- วิทยาศาสตร์กับพุทธศาสนา จุดแยกหรือจุดบรรจบ
- ศาสนาแห่งธรรมชาติ และการรู้ธรรมชาติด้วยปัญญา
- ศาสนาแห่งการเพียรแก้ปัญหา ด้วยการพัฒนาปัญญาของมนุษย์
- แยกแล้วทิ้ง กับแยกไปเอาความจริง
- พุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์ ความต่างในความเหมือน
- ศรัทธา: จุดร่วมที่แตกต่าง ระหว่างพุทธศาสนากับวิทยาศาสตร์
- ศรัทธาที่ครบชุด ต้องทั้งมนุษย์ ธรรมชาติ และสังคม
- ทำท่าจะเหมือน แต่ก็ไม่เหมือน
- แดนแห่งความรู้: ขอบเขตและเป้าหมายที่ไม่เหมือนกัน
- วิธีเข้าถึงความรู้: แนวทางที่ตรงกัน แต่เน้นต่างกัน
- วิธีเข้าถึงความจริง: จุดเน้นและการใช้ต่าง ที่ทำให้ห่างไกลกัน
- สุดแดนวิทย์ เข้ามาจ่อแดนจิต
- โลกวัตถุ: แดนตัวเองที่วิทยาศาสตร์ยังไปไม่จบ
- จริยธรรม: ด่านหน้าที่รอประลองของแดนนามธรรมแห่งจิต
- วิทยาศาสตร์: ต้นวงจรที่เฉออกไปจากมนุษย์
- ศาสนาที่แท้เป็นฐานกำเนิดของวิทยาศาสตร์
- สู่การยอมรับคุณค่าและประสบการณ์ทางอินทรีย์ที่ ๖
- ข้อเสนอเบ็ดเตล็ด เพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์
- การยอมรับความ “ไม่เพียงพอ” ของวิทยาศาสตร์
- ความ “รอไม่ได้” ก็เป็นภาวะที่ต้องยอมรับด้วย
- จัดปรับเรื่องคุณค่าให้ถูก เข้าใจสุข-ทุกข์ให้ตรงปัญหาการพัฒนาจึงจะแก้ได้
- ส่งเสริมเทคโนโลยีที่สร้างสรรค์และไม่สร้างปัญหา
- การแก้ปัญหาที่ถ่วงการพัฒนาวิทยาศาสตร์ในสังคมไทย
ก้าวถึงสุดแดน แต่ก็รู้ไม่จบ
ข้อสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ เวลานี้ความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์ได้มาไกลมากแล้ว จนกำลังจะสุดแดนแห่งโลกวัตถุ ขอบเขตของวิทยาศาสตร์นั้นอยู่ที่โลกวัตถุ แต่ตอนนี้มันจะสุดเขตของแดนแห่งโลกวัตถุแล้ว และกำลังเข้ามาจ่อแดนของจิตใจ ตอนนี้ละจะเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญมาก ในแง่ของสิ่งที่เราจะศึกษา
สิ่งที่วิทยาศาสตร์จะศึกษาพิสูจน์ต่อไปนี้ กำลังก้าวเข้ามาในแดนของจิตใจ นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อย กำลังหันมาสนใจปัญหาเรื่องจิตใจว่า จิตใจคืออะไร จิตใจทำงานอย่างไร consciousness คืออะไร มันมาจากวัตถุจริงหรือไม่ หรือมันมีความมีอยู่ของมันต่างหาก อย่างคอมพิวเตอร์เวลานี้มี AI แล้ว AI ก็คือ artificial intelligence ที่เขาเรียกว่าปัญญาประดิษฐ์
ในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์นี้ ต่อไปจะทำให้คอมพิวเตอร์ มีจิตใจหรือไม่ เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหาที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยถกเถียงกันอยู่ ถึงกับเขียนหนังสือมาเป็นเล่มโตๆ เลย บางเรื่องเป็น national bestseller ของอเมริกาก็มี ว่าด้วยเรื่องคอมพิวเตอร์จะมีจิตใจได้หรือไม่ อันนี้แสดงว่า วิทยาศาสตร์กำลังเข้ามาจ่อแดนของจิตใจ เมื่อจ่อแดนของจิตใจ ก็ก้าวเข้ามาสู่แดนของศาสนา เพราะฉะนั้น ก็มีเรื่องที่จะต้องมาพิจารณากัน นี้พูดในแง่ของสิ่งที่ถูกพิสูจน์หรือศึกษา
อีกด้านหนึ่งก็คือ ในแง่ของการพิสูจน์หรือวิธีพิสูจน์ เมื่อมาถึงขั้นนี้ วิธีการพิสูจน์นั้นก็กำลังจะพ้นเลยขอบเขตของอินทรีย์ ๕ ออกไป แต่ก่อนนี้ เราใช้อินทรีย์ ๕ เปล่าเปลือย คือ ตา หู และร่างกายล้วนๆ แล้วต่อมาเราก็อาศัยอุปกรณ์ที่ขยายวิสัยแห่งอินทรีย์ของมนุษย์ เมื่ออินทรีย์เปล่าๆ ไม่สามารถจะรับรู้ หรือรับทราบได้ เราก็เอาพวกอุปกรณ์เทคโนโลยีที่ขยายวิสัยอินทรีย์นั้นมาใช้
แต่มาถึงตอนนี้แม้แต่อุปกรณ์เหล่านั้นก็อาจจะพิสูจน์ไม่ไหว คือไม่เพียงพอที่จะพิสูจน์ได้ เมื่อถึงขั้นนี้ การพิสูจน์ของวิทยาศาสตร์ก็กลายมาเป็นเรื่องของคณิตศาสตร์ คือใช้ภาษาคณิตศาสตร์เป็นสื่อ แล้วก็มาอยู่กับสิ่งที่เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์
เมื่อการสังเกต พิสูจน์ หรือตีความอะไรต่างๆ มาใกล้แดนของจิตใจมากขึ้น ถ้าวิทยาศาสตร์ยังไม่ปรับเปลี่ยนท่าทีและวิธีการ มันก็จะอยู่แค่ในระดับของการคาดหมายและความเชื่อ มีเรื่องความเชื่อเข้าไปปะปนมากขึ้นด้วย และอันนี้ก็คือเรื่องที่ว่า วิทยาศาสตร์กำลังเข้ามาจ่อแดนของจิตใจแล้ว จะเข้าถึงแดนนั้นได้หรือไม่ และอย่างไร ซึ่งเป็นจุดที่เราน่าจะพิจารณา
เมื่อทำความเข้าใจเบื้องต้นกันอย่างนี้แล้ว ก็หันกลับไปดูตั้งแต่กำเนิด และพัฒนาการของวิทยาศาสตร์เป็นต้นมา
No Comments
Comments are closed.