เพราะเจตนาร้าย บวกความเท็จทุจริต และการขาดความกล้าหาญ เขาจึงต้องแอบอ้างสถาบันสำคัญมาทำการอันน่าละอาย

1 มกราคม 2545
เป็นตอนที่ 8 จาก 9 ตอนของ

เพราะเจตนาร้าย บวกความเท็จทุจริต และการขาดความกล้าหาญ
เขาจึงต้องแอบอ้างสถาบันสำคัญมาทำการอันน่าละอาย

การที่เกิดปัญหาขึ้นนี้ ก็เพราะเราชาวพุทธห่างเหินจากการศึกษาพระธรรมวินัย ทำให้ไม่รู้หลักพระศาสนา จึงเป็นช่องให้คนภายนอก พวกที่เจตนาร้าย มาแอบอ้าง เอากองทัพเป็นฐาน เที่ยวปั้นแต่งเรื่องเท็จอะไรต่างๆ มาทำการทุจริตหลอกลวงได้

เรื่องของคน/นายทหารทุจริตกลุ่มพวก ดร. เบญจ์-พ.อ. บรรจง นี้มองเห็นชัดอยู่แล้วว่า งานที่แท้ของเขาคือการทำลายพระพุทธศาสนา ในเมื่อพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ เขายังคิดจะทำลายได้ ก็ย่อมเป็นการแน่นอนว่า เรื่องอะไรอื่นๆ ทุกอย่าง เขาย่อมทำได้ทั้งนั้น จะเป็นการเท็จทุจริตหรือทำบาปกรรมอะไร จะใส่ร้ายพระที่ไหน เขาย่อมทำได้ทั้งหมด และอย่าไปหวังเลยว่าเขาจะหยุดทำการร้ายอย่างนี้ เพราะว่า ถึงอย่างไรเขาก็คงต้องพยายามให้สำเร็จผลในการทำลายหลักพระพุทธศาสนาให้ได้

ข้อสำคัญสำหรับเราชาวพุทธก็อยู่ที่ความรู้เท่าทัน เมื่อเรารู้ทันแล้ว เขาจะทำอีกอย่างไหนเท่าไร มันก็ไม่มีความหมาย

อย่างที่บอกแล้วว่า เรื่องนี้เป้าหมายแท้ที่เขามุ่งทำลาย คือพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นเรื่องหลักการของพระพุทธศาสนา การที่เขาทำร้ายบุคคล โดยเฉพาะใส่ร้ายพระธรรมปิฎกนั้น ก็พิสูจน์ไม่ยาก และถึงจะทำรุนแรงขนาดไหน ตัวพระก็คงอยู่อย่างนั้น

แต่ที่เขาทำกับพระไตรปิฎก ทำกับพระธรรมวินัย ทำกับหลักพระพุทธศาสนา แม้กระทั่งทำกับนิพพาน ด้วยการบิดเบือนต่างๆ เหล่านี้ จะปล่อยให้คนหลงผิดตามเขาไปไม่ได้ จึงต้องเขียนต้องพิมพ์หนังสือบอกเล่าให้ความรู้กันไป โดยเน้นที่การแสดงหลักแห่งพระธรรมวินัย

ได้บอกแล้วว่า นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง นี่ มาเอายศทหารเป็นเครื่องมือ เอากองทัพไทยเป็นฐาน ที่จะทำการเหยียบย่ำทำลายหลักพระพุทธศาสนา อันนี้เป็นการพูดที่จริงแท้แน่นอน ไม่มีผิดเลย

เขาอวดว่าตัวเขาทำหน้าที่ของข้าราชการทหาร ในการป้องกันรักษาความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แต่การณ์กลับกลายเป็นว่า เขาเพียงแต่ยกเอาสถาบันขึ้นมาแอบอ้างในการทำกรรมบาปทุจริต ที่มีผลเป็นการทำลายพระพุทธศาสนา และบันทอนความมั่นคงของชาติ

นอกจากนี้ น่าเสียดายอย่างยิ่งว่า นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง นี้ ยังได้ทำการร้ายทั้งหลายที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น อย่างไร้ความกล้าหาญ ไม่เฉพาะทำการที่เป็นเท็จและทำแบบลอบทำร้ายเท่านั้น แต่พวกเขาทำเอกสารและหนังสือที่เป็นของเถื่อน หาทางหลบหลีกความรับผิดชอบ

แม้แต่จะเขียนหรือพิมพ์ชื่อคนที่เขาใส่ร้าย เขาก็ไม่กล้าหาญจริงอย่างเห็นได้ชัด เขาจึงต้องแกล้งเขียนสะกดชื่อพวกคฤหัสถ์ที่ตนใส่ความนั้นให้คลาดเคลื่อนผิดเพี้ยน ทำนองจะเป็นข้ออ้างที่จะปัดความรับผิดชอบทางกฎหมาย ซึ่งนอกจากแสดงถึงการขาดความกล้าหาญแล้ว ก็ทำให้เห็นได้ว่าเรื่องที่เขาว่านั้นไม่เป็นจริง เขาจึงต้องทำแบบเลี่ยงหลบเอา ดังจะเห็นว่า ถ้าเป็นพระสงฆ์ที่เขารู้ว่าแม้จะถูกทำร้าย ท่านก็จะไม่ฟ้องร้องเอาเรื่องแก่เขา เขาก็เขียนชื่อสะกดการันต์ได้ถูกต้อง

ตัวอย่างความเท็จทุจริต บวกกับความไม่กล้าหาญของเขา ซึ่งเขาประจานตัวเองไว้ในหนังสือ คำให้การฯ นี้ เช่น (หน้า ๓๒) เขาพยายามเอาเรื่องพระธรรมปิฎกไปโยงกับเรื่องนาย ส. ศิวลักษ์ ว่านาย ส. ศิวลักษ์ บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ติเตียนสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นต้น

ชื่อ “นาย ส. ศิวลักษ์” นี้ ได้ตรวจดูแล้ว ทุกแห่งเขาเขียนสะกดอย่างนี้ แสดงว่าเขาตั้งใจเขียนอย่างนั้น ไม่ใช่พิมพ์ผิด ในที่นี้จึงเขียนสะกดตามเขา แต่ถ้าเป็นชื่อที่เขียนอย่างนี้จริง ก็ไม่ทราบว่าเป็นใคร แน่ใจได้ว่าเป็นชื่อที่เขาแกล้งเขียนให้ผิด แล้วแค่นี้ ถ้าเขาทำงานสุจริต ทำไมจึงไม่กล้าเขียนให้ถูก)

นาย ส. ศิวลักษ์ จะทำอะไรก็เป็นเรื่องของนาย ส. ศิวลักษ์ พระธรรมปิฎกก็ทำงานทางธรรมะ ทางพระศาสนา แต่ละคนก็ทำงานของตนไป เป็นอิสระกัน ถ้าเป็นเรื่องธรรมะ เรื่องพระศาสนา พระธรรมปิฎกเมื่อยังอยู่ในระยะที่ออกข้างนอกไหว ก็สามารถพิจารณารับนิมนต์เป็นต้นไปตามควร

ชีวิตที่เป็นอยู่แบบพระ ทำงานเป็นอิสระ ไม่เป็นภัยอันตรายแก่ใครๆ ได้แต่ เกื้อกูลธรรมแก่ทุกคนเสมอหน้านั้น พ.อ. บรรจง ควรหาโอกาสเรียนรู้บ้าง มิฉะนั้น เขาก็จะมองแค่ตามเคยชินของตน พอเห็นคนอื่นมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องพบปะอะไร ก็จะคิดปรุงแต่งโยงกันไปว่าต้องอยู่ในอาณัติอำนาจหรือเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ (เรื่องความเป็นอยู่และงานของพระนี้อ่านเพิ่มได้ในหนังสือเล่มนี้ หน้า ๖๙-๗๒)

ธรรมะนี้ จำเป็นสำหรับทุกคน อย่าว่าแต่คนที่พวก พ.อ. บรรจง ชอบพอหรือเกลียดชังเลย แม้แต่ใครจะเป็นคอมมิวนิสต์หรือเป็นคริสต์อะไร เราก็ไปพูดกับเขาได้ เราก็ชี้แจงแสดงธรรมะไป

อย่าว่าแต่เป็นคอมมิวนิสต์หรือเป็นคริสต์เลย แม้แต่กับคนอย่าง พ.อ. บรรจง ที่มาหาทางทำร้ายนี้เอง ผู้แสดงธรรมก็ยังยินดีพูดธรรมะแก่เขาด้วย เพราะถ้านายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง จะกลับใจกลายเป็นนายทหารสุจริตได้ ก็จะเป็นบุญเป็นกุศลอย่างมาก ทั้งแก่ตัวเขาเอง และแก่สังคมไทย

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ชาวพุทธต้องแม่นชัดในหลักธรรมที่สำคัญ มิฉะนั้นไม่เห็นทางรักษาพระพุทธศาสนาให้ปลอดภัยรู้ทันคนร้าย รู้ทันนายทหารทุจริตแล้ว รู้เท่าถึงเหตุการณ์ที่เป็นมาด้วย จะช่วยให้ชาติและพระศาสนายืนยง >>

No Comments

Comments are closed.