กลุ่มพวก พ.อ. บรรจง เป็นนายทหาร “ทุจริต” อย่างไร

1 มกราคม 2545
เป็นตอนที่ 8 จาก 26 ตอนของ

กลุ่มพวก พ.อ. บรรจง เป็นนายทหาร “ทุจริต” อย่างไร

นายทหารกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง นี้ ถูกเรียกในหนังสือ “ขอคำตอบจาก ผบ.ทหารสูงสุดฯ” ว่าเป็นนายทหารทุจริต

เอกสารของกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง เล่มนี้ออกมาปฏิเสธว่า พวกเขาไม่ได้ทำการทุจริต โดยอ้างความหมายของคำว่า “ทุจริต” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑ บทนิยาม (๑) “โดยทุจริต” หมายความว่า เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย สำหรับตนเองและผู้อื่น

ตามวิสัยของชาวพุทธนั้น เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นย่อมนึกถึงหลักธรรมก่อน แต่นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง แทนที่จะนึกถึงหลักธรรม กลับไปอ้างกฎหมาย เพื่อหลบเลี่ยงกรรมทุจริตที่ตนก่อไว้

กฎหมายนั้นมีไว้สำหรับเป็นกรอบกั้นคนที่ไม่อยู่ในศีลในธรรม ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง จะได้มีทางปฏิบัติในการกำราบปราบปราม แต่ถ้าคนมีธรรมก็จะไม่ทำการทุจริต ไม่ต้องมีปัญหาไปถึงกฎหมาย

กฎหมายมีไว้เพื่อรักษาธรรม และเป็นฐานทางสังคมที่จะรองรับดำรงธรรมไว้ ดังนั้น ถ้าเป็นชาวพุทธ ก็จะต้องนึกถึงธรรมเป็นหลักก่อน โดยถือธรรมเป็นใหญ่ การที่นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง มองข้ามธรรมไปอ้างกฎหมาย แสดงถึงการมีจิตใจที่มิใช่ชาวพุทธ

ทุจริตเป็นหลักธรรมพื้นๆ ชาวพุทธรู้กันดีว่า “ทุจริต” คือความประพฤติมิชอบ การประพฤติเสียหาย หรือการประพฤติไม่ดี ซึ่งมี อย่าง ได้แก่ กายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต ชาวพุทธจะต้องรู้จักและละเว้นทุจริตเหล่านี้

(แม้แต่ที่เขาอ้างนิยามตามกฎหมายอาญาก็เป็นการลวงชาวบ้านอีก คือ ตามกฎหมายอาญานั้น คำว่า “โดยทุจริต” ใช้ในคำว่า “ลาภที่ได้มาโดยทุจริต” เป็นต้น ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันกับคำว่า คนทุจริต นายทหารทุจริต ทำการทุจริต เป็นต้น ขอให้ญาติโยมหมั่นสังเกต จะได้รู้ทันวิธีทุจริตของเขาที่จะหลอกเรื่อยไปทุกแห่ง)

พฤติการณ์ของ พ.อ. บรรจง ไชยลังกา กับพวกนั้น เป็นการทุจริตอย่างแน่นอน เป็นทั้งกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต โดยเฉพาะที่เด่นชัดคือวจีทุจริต ในการเที่ยวเผยแพร่ความเท็จหลอกลวงพระสงฆ์และประชาชน

“การทำทุจริต” ที่เสียหายและน่ารังเกียจที่สุดของคน/นายทหารทุจริตกลุ่มพวก ดร. เบญจ์-พ.อ. บรรจง นี้ ก็คือ การนำเอาพระไตรปิฎกที่เป็นหลักของพระพุทธศาสนาแทนองค์พระบรมศาสดา มาใช้เป็นเครื่องมือทำการทุจริตเหมือนเป็นของเล่น โดยการอ้างผิดๆ ถูกๆ บิดเบือนความ และแม้กระทั่งตู่เอา พูดง่ายๆ ว่าเขาทำทุจริตได้ทุกอย่างที่จะให้งานสร้างเรื่องเท็จใส่ร้ายของเขาสำเร็จผล

(เรื่องนี้ไม่ต้องยกตัวอย่าง เพราะหาอ่านได้ในหนังสือ เปิดหน้ากากธรรมกาย ลากไส้ดร. เบญจ์ ของ นาวาเอกทองย้อย แสงสินชัย ที่พูดถึงแล้วข้างต้น)

การทำทุจริตต่อพระไตรปิฎกอย่างนี้ เป็นบาปกรรมที่ผิดวิสัยชาวพุทธ ซึ่งทำให้เขาไม่มีความชอบธรรมที่จะเรียกตัวเองว่าเป็นชาวพุทธ หรือเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนา เขาควรจะสำนึกบาปที่เขากำลังทำลายพระพุทธศาสนา

ในหนังสือ ขอคำตอบจาก ผบ.ทหารสูงสุดฯ ก็ได้เขียนไว้แล้วในเชิงอรรถหน้า ๗ ซึ่งบอกว่า “ในที่นี้เลือกใช้คำว่า ทุจริต เพราะเป็นคำที่ตรงกับพฤติกรรมของนายทหารกลุ่มนี้ และเป็นคำศัพท์ทางธรรม ซึ่งเป็นถ้อยคำสุภาพ” คือเป็นการพูดตามหลักธรรมอย่างถูกต้องอยู่แล้ว ไม่ผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย และเป็นคำสุภาพด้วย

แม้แต่หลักธรรมพื้นๆ เรื่องทุจริต-สุจริต นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง นี้ก็ยังไม่รู้ หรือแกล้งไม่ใส่ใจ แล้วเขาจะมาอ้างตัวว่าเป็นชมรมชาวพุทธได้อย่างไร

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< พระไม่ฟ้องร้อง ไม่เป็นคดีความกับใครๆ ที่จะแก้ไขจัดการ ก็เพื่อเห็นแก่พระศาสนาและประชาชาวบ้านชมรมชาวพุทธสามเหล่าทัพ “เถื่อน” อย่างไร >>

No Comments

Comments are closed.