- (กล่าวนำ)
- – ๑ – คุณสมบัติและหน้าที่ของพระธรรมทูต
- มีภูมิปัญญาที่มั่นใจและรู้ว่าเขาต้องการอะไร
- ตั้งมั่นในแบบแผนหนักแน่นไม่หวั่นไหว
- ทำงานเพื่อชุมชนไทย และเพื่อถิ่นที่ไป เพื่อทั้งโลก แต่ไม่ทิ้งสังคมไทย
- – ๒ – ความติดตันของอารยธรรมปัจจุบัน
- มองมนุษย์แยกจากธรรมชาติ วิทยาศาสตร์มุ่งพิชิตเป็นเจ้านาย
- มองมนุษย์ด้วยกันแยกเป็นฝ่าย ศาสนายิ่งซ้ำให้คนรวมกันไม่ได้
- เมื่อโลกต้องการความเป็นสากล ทำไมศาสนาสนองความต้องการนั้นไม่ได้
- สากลเป็นสภาพธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อว่าไปตามธรรมดา สันติภาพสากลก็ตามมาเอง
- – ๓ – สภาพโทรมของสังคมอเมริกัน
- ความหวั่นใจว่าใกล้สิ้นยุคอเมริกา
- เมื่อเบ้าหลอมแตกไป จะเอาอะไรมาสร้างรูปร่างใหม่
- เรื่องเก่า: ทิ้งคนแก่อยู่กับความเงียบเหงา
- เรื่องใหม่: เด็กกลายเป็นคู่เวรกับพ่อแม่
- เมื่อยุคอุตสาหะผ่านพ้น คนก็เลิกขยันหมั่นเพียร
- กฎหมาย: เครื่องธำรงที่กลายเป็นเครื่องทำร้ายสังคม
- หนึ่งกับหนึ่งเป็นสอง กลายเป็นหนึ่งกับหนึ่งเป็นสูญ
- หนึ่งต่อด้วยอะไร จึงจะไปถึงสิบ
- ภูมิปัญญาที่สร้างความเจริญน่าตื่นตาในเบื้องต้น แต่นำสู่ความอับจนในเบื้องสุด
- เมื่ออับจนจะแก้ปัญหาวิธีจำใจด้วยวิธีจำใจ ก็ยิ่งติดตันทั้งข้างนอกข้างใน
- เลิกเอียงสุดข้างนอก ระวังจะมาเอียงสุดข้างใน
- เมื่อตะวันตกดิ้นหาทางออกใหม่ ตะวันออกจะไปช่วยได้จริงหรือ
- – ๔ – แนวทางวางฐานเพื่อสร้างสรรค์อารยธรรมที่แท้
- แรงบีบคั้นที่ทำให้ไม่ประมาทเร่งสร้างสรรค์ แต่ความไม่ประมาทนั้น ยังต้องถามว่าเป็นอย่างแท้หรือเทียม
- ไทยสบายๆ แต่ตกอยู่ในความประมาท ฝรั่งไม่ประมาทแต่ไม่แท้ ก็ไปสู่ความพินาศ
- ขัดแย้ง จำใจ ไม่ยั่งยืน คือความติดตันของความเจริญยุคปัจจุบัน
- ความเจริญที่แท้ เริ่มจากคนตั้งต้นพัฒนาอย่างถูกทาง
- แสงสว่างช่วยส่องทางไปข้างหน้า แต่แสงสีอาจพาให้หลงวน
- เครื่องกล่อมและปลอบใจ ต้องรู้จักใช้ เอาพอได้พักตั้งตัว เพื่อเดินหน้ากันต่อไป
- เมื่อมองธรรมแยกกระจาย ไม่อยู่ในระบบความสัมพันธ์ ความเข้าใจก็ผิด การปฏิบัติก็พลาด ผลคือความเสียหาย
- ในระบบสัมพันธ์ที่พอดีเพื่อให้สังคมนี้ยั่งยืน ต้องให้มนุษย์อยู่กันดี โดยที่ธรรมก็ดำรงอยู่ได้
- ถึงเวลาที่ต้องมองหลักให้ชัดปฏิบัติให้ครบ เพื่อนำมวลมนุษย์หลุดทางตันสู่อารยธรรมที่แท้
- เมื่อมีความเปลี่ยนแปลงในระบบความสัมพันธ์ใหญ่ อารยธรรมเก่าก็เปลี่ยนไปเป็นอารยธรรมใหม่
เรื่องใหม่: เด็กกลายเป็นคู่เวรกับพ่อแม่
เดี๋ยวนี้ยิ่งหนักขึ้นไปอีก คือพ่อแม่ที่อยู่กับลูก ตัวเองอยู่ในวัยทำการทำงาน แม้จะรักลูกมาก แต่เพราะวุ่นวายกับธุรกิจการงาน ก็เกิดปัญหาทางจิตใจ แล้วมาระบายกับลูก กลายเป็นปัญหาในสังคมอเมริกันมาก คือการกระทำที่เรียกว่า child abuse หมายถึงการทำร้ายเด็ก มีการทุบตีทารุณและทำการรุนแรงต่างๆ รัฐบาลจะหาทางออกในการแก้ปัญหา ก็ต้องออกกฎหมายมาป้องกันพ่อแม่ทำร้ายลูก พอออกกฎหมายมาก็กลายเป็นดาบ ๒ คม เพราะมันไม่ได้แก้ปัญหาที่ตัวมนุษย์แต่ไปแก้ปัญหาที่รูปแบบหรือแบบแผนภายนอก ก็ใช้ไม่ได้ผลจริง เอาสิ ! ออกกฎหมายมากำหนดว่า พ่อแม่ทำร้ายเด็ก แล้วจะต้องถูกจับลงโทษ กฎหมายนี้กลับมีผลในทางลบ ก็ยุ่งอีก ปัจจุบันสังคมอเมริกันกำลังประสบปัญหาหนักคือ พ่อแม่ตีเด็กไม่ได้ ว่ากล่าวอะไรต้องระวัง ลูกอาจไปฟ้องตำรวจให้จับพ่อแม่ หรือว่าลูกไม่ฟ้องเอง ลูกไปโรงเรียนไปเล่าให้ครูฟัง ครูโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ ตำรวจก็มาจับพ่อแม่ไปขัง แล้วทีนี้จะทำอย่างไร พ่อแม่จะว่าอะไรลูกก็ไม่ได้ ถ้าลูกนั้นดื้อก็จบกัน
ผมไปคราวก่อนญาติโยมที่นั่นก็เล่าปัญหาให้ฟัง คนเอเชียไปเจอกฎหมายแบบนั้นเข้าก็พลอยเจอปัญหาด้วย คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า คนทางอาเซียครอบครัวหนึ่งไปอเมริกาใหม่ๆ ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ ลูกก็เล็กๆ ไปโรงเรียน ก็ยังพูดไม่ค่อยได้เหมือนกัน คราวหนึ่ง ลูกมีโรคอะไรขึ้นมาที่ผิวหนังบริเวณคอ แล้วเกิดอาการอักเสบ หรือเป็นแผลหรือเป็นผื่นคันอะไรทำนองนั้น แล้วพ่อเอายามาใส่ ผิวหนังลอก ก็ยิ่งดูน่าเกลียด พอเด็กไปโรงเรียน ครูเห็นเข้าก็ถาม เด็กก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง เขาถามตอนหนึ่งว่าใครทำ เด็กก็ตอบในความหมายว่าพ่อมาช่วยรักษาใส่ยาให้ แต่พูดไม่เป็นก็บอกว่าพ่อทำ เท่านั้นแหละ ครูโทรศัพท์ไปบอกตำรวจ ตำรวจก็มาจับพ่อไปเข้าคุก พ่อก็พูดกับตำรวจไม่รู้เรื่อง แกตรอมใจอย่างไรไม่รู้เลยผูกคอตายในคุก นี่ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าอีกกรณีหนึ่ง
ครั้งล่าสุด คุณหมอที่นิมนต์ผมไปอเมริกาเล่าให้ฟังตอนมาด้วยกันในรถว่า หมอไทยครอบครัวหนึ่ง เป็นหมอทั้งสามีและภรรยา ก็มีคลินิก มีกิจการของตัวเอง หมอคู่นี้มีลูก ๒ คน ลูกคนเล็กดื้อมาก วันหนึ่งแกเห็นว่าลูกดื้อจัด ก็จำกัดที่ลูกไม่ให้ออกจากบ้าน ขังลูกให้อยู่ชั้นบนบ้าน แต่เมืองอเมริกา เทคโนโลยีเจริญมาก ไปตรงไหนแม้แต่ในห้องน้ำก็มีโทรศัพท์ ชั้นบนเขาก็มีโทรศัพท์ เด็กก็คว้าโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ว่าพ่อแม่ทำลายอิสรภาพ (บางท่านว่าเด็กเขียนข้อความใส่กระดาษทิ้งลงไปทางหน้าต่าง เพื่อนบ้านเก็บกระดาษชิ้นนั้นได้ โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ) ตำรวจก็มาจับเอาพ่อแม่ไปขัง ประกันตัวออกมาได้ พอประกันตัวออกมาแล้ว หมอพ่อแม่คู่นั้นหายตัวไปเลย จนบัดนี้ยังหาตัวไม่เจอ แกหนีภัยจากการถูกดำเนินคดี
ก่อนปัญหานี้จะเด่นขึ้นมา เรื่องเด็กในอเมริกาก็มีปัญหาที่หนักอยู่แล้ว คือ เมื่อสังคมอเมริกันมั่งคั่งพรั่งพร้อม กลายเป็นสังคมบริโภค ก็เกิดมีสถิติขึ้นสูงว่าเด็กวัยรุ่นและคนหนุ่มสาวฆ่าตัวตายมาก เป็นเรื่องที่สังคมอเมริกันทั้งตกใจและทั้งงุนงง
นี่เป็นตัวอย่างให้เห็นเรื่องของสังคมอเมริกัน ที่กำลังเป็นปัญหา ระบบครอบครัวเสื่อมสลาย ซึ่งมีความรุนแรงมาก รวมทั้งการเอาเสรีภาพไปใช้ในทางที่ผิด เช่น เด็กประถมไปโรงเรียน เอาปืนไปยิงที่โรงเรียน อาชญากรรมวัยรุ่นเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ เช่น ในช่วง พ.ศ. ๒๕๒๙-๒๕๓๔ (๑๙๘๖-๑๙๙๑) สถิติฆ่ากันตายของเด็กวัยรุ่นอายุ ๑๔-๒๔ ปี เพิ่มขึ้น ๖๒ เปอร์เซนต์ และเจาะแคบลงไป เด็กในช่วงอายุ ๑๔-๑๗ ปี ฆ่ากันตายเพิ่มขึ้นถึง ๑๒๔ เปอร์เซนต์ การที่เด็กนักเรียนพกปืนไปโรงเรียนกลายเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ เด็กฆ่าเด็กเพื่อเอาเสื้อผ้าและเครื่องประดับ เป็นต้น นักสังคมวิทยาบางคนกล่าวว่าเหตุให้เป็นเช่นนี้คือปัญหาความวิปริตในระบบครอบครัว
มีเรื่องที่คนไทยก็ควรสังวร เช่น เมื่อฤดูใบไม้ร่วงปี ๒๕๓๖ (๑๙๙๓) ที่เมืองมอเรน รัฐโอไฮโอ (Moraine, Ohio) เด็กชายอายุ ๕ ขวบ ดูหนังการ์ตูนเรื่องที่นิยมในเอ็มทีวี (MTV = Music Television) เด็กตัวเอกในการ์ตูนพูดว่าเล่นไฟสนุกดี หลังจากดูทีวีแล้ว เด็กชายนั้นก็เอาไฟจุดเผาเตียงนอน ไฟไหม้บ้านและน้องสาวของเด็กนั้นอายุ ๒ ขวบถูกไฟครอกตาย
ยาเสพติดก็แพร่หลายมาก จนหนังสือฝรั่งบางเล่มพูดว่า ถนนหนทางกลายเป็นสนามต่อสู้สงครามยาเสพติด แม้ประเทศไทยเราก็ทำท่าจะตามอย่างไปด้วย ล้วนแล้วแต่น่ากลัวทั้งนั้น ฉะนั้น พวกเขาเองจึงบอกว่า สังคมอเมริกันจะตั้งอยู่ไม่ไหว
แม้แต่อาหารด่วนตามร้านที่นิยมกัน ก็ต้องระวังไว้บ้าง เมื่อต้นปี ๒๕๓๖ (๑๙๙๓) ช่วงระหว่าง ๑๓ มกราคม – ๒๐ กุมภาพันธ์ ในรัฐวอชิงตัน ได้เกิดกรณีคนกินแฮมเบเกอร์ (hamburgers) ที่ร้านแจ็คอินเดอะบอกซ์ (Jack-in-the-Box) แล้วท้องร่วง เด็กตายไป ๔ คน และคนป่วยราว ๓๐๐ คน สืบสวนได้ความว่า มีเชื้ออีโคไล (e-coli) ปะปนในแฮมเบเกอร์ ที่ผู้ผลิตนำมาส่ง
No Comments
Comments are closed.