จับโน่นชนนี่โยงมาโยงไป จะทำลายธรรมที่เป็นหลักแกนใน เลยกลายเป็นประจานตัวว่าเป็นคนนอกศาสนา

1 มกราคม 2545
เป็นตอนที่ 20 จาก 26 ตอนของ

จับโน่นชนนี่โยงมาโยงไป จะทำลายธรรมที่เป็นหลักแกนใน
เลยกลายเป็นประจานตัวว่าเป็นคนนอกศาสนา

นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง ทำร้ายใส่ความทั้งหมดนี้ เป้าหมายใหญ่อยู่ที่จะทำลายความเชื่อถือต่อหนังสือพุทธธรรม

การที่จะใส่ร้ายเนื้อความของหนังสือพุทธธรรม คนใส่ร้ายจะต้องมีความรู้เรื่องธรรมะและพระไตรปิฎกสักหน่อย แต่เพราะคน/นายทหารทุจริตกลุ่มพวก ดร. เบญจ์-พ.อ. บรรจง ขาดความรู้ธรรม ไม่รู้คัมภีร์ และคนที่ช่วยเหลือหรือบงการ ในการทำเรื่องก็รู้ครึ่งๆ กลางๆ เมื่อทำไปจึงไม่แนบเนียน ถูกจับเท็จได้ง่าย

แต่คนกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง ยังหาทางใส่ร้ายด้วยวิธีอื่นอีก โดยเฉพาะวิธีที่ง่ายกว่านั้นอย่างหนึ่ง คือ จับคนโน้นคนนี้กลุ่มโน้นกลุ่มนี้ที่เขาคิดเอาเองว่าไม่ดี หรือที่เขาใส่ร้ายว่าไม่ดี เอาขึ้นมาตั้ง เมื่อคนนั้นกลุ่มนั้นเคยผ่านพบหรือเกี่ยวข้องได้นิมนต์พระธรรมปิฎกไปในงานของเขา เช่นไปเทศน์ ไปเป็นที่ปรึกษา หรือเขาเอาไปพูดถึง ก็จับเอามาโยงและขยายเรื่อง เพื่อให้เห็นว่าพระธรรมปิฎกร่วมงานร่วมการกับคนนั้นพวกนั้นและจะต้องเป็นอย่างนั้นๆ

เหมือนกับกล่าวหาว่าท่านเจ้าคณะองค์นี้ เคยรับนิมนต์ไปฉันเพลที่บ้านเถ้าแก่คนนั้น เพราะฉะนั้นท่านก็ค้ายาบ้า เพราะต่อมาตำรวจจับได้ว่าเถ้าแก่คนนั้นค้ายาบ้า หรือกล่าวหาว่าท่านเจ้าอาวาสวัดนี้เล่นการพนัน เพราะคนที่ถูกจับเล่นการพนันที่ในตลาดคนหนึ่งเป็นญาติโยมที่เคยมาทำบุญที่วัดของท่าน

คนหรือกลุ่มคนที่พวก พ.อ. บรรจง เอามาพ่วงมาโยง ที่เขาว่าเป็นคนไม่ดีนั้น ถึงแม้เราจะไม่สามารถไปรับรองได้ทุกคน เพราะเราก็ไม่ได้รู้จักทั่วทั้งหมด แต่ก็พูดได้ว่า ส่วนใหญ่หรือแทบทั้งหมดนั้นเป็นคนดี จริงอยู่ บางคนที่รู้กันตามปกติว่าดี อาจจะมีบางด้านของเขาที่ไม่ดี ก็เป็นไปได้ แต่เราก็ไม่มีหน้าที่อะไร ที่จะไปตามสืบหรือจะต้องรับประกันใคร ก็เป็นเรื่องของเขา ที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพระธรรมปิฎก แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ไม่ปรากฏว่าคนเหล่านั้นได้ทำการเท็จทุจริตที่จะเอามายืนยันได้แน่นอนชัดเจน เหมือนอย่างที่นายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง ได้ทำอยู่อย่างโจ่งแจ้งนี้

อย่างไรก็ตาม ข้อที่พูดมานั้นยังเป็นเพียงเรื่องปลีกย่อย ไม่ใช่เหตุผลใหญ่ ชาวพุทธย่อมรู้ดีว่า สำหรับพระสงฆ์ การที่จะดูความถูก-ผิด ต้องใช้หลักพระธรรมวินัย

เมื่อเราดูตามหลักพระธรรมวินัย ก็เห็นได้ว่า การกระทำของนายทหารทุจริตกลุ่มพวก พ.อ. บรรจง ตรงนี้ แสดงว่าเขาไม่รู้เรื่องพระธรรมวินัย และไม่รู้จักธรรมเนียมหรือวิถีชีวิตของพระสงฆ์ เมื่อเขาไม่รู้เรื่องอย่างนี้ ก็เป็นการฟ้องหรือประจานตัวเองว่า เขาคงจะต้องมิใช่เป็นชาวพุทธ

พระสงฆ์มีเพศต่างจากคฤหัสถ์ และหลักพระธรรมวินัยทำให้พระสงฆ์มีชีวิตความเป็นอยู่แตกต่างจากญาติโยมชาวบ้าน ความสัมพันธ์ของพระสงฆ์กับคฤหัสถ์ก็ไม่เหมือนความสัมพันธ์ระหว่างคนทั่วไป

ตอนก่อนหน้า/ตอนต่อไป<< ที่ใครว่าพระเจ้าเป็นอนัตตา คริสต์ไม่เอาด้วยหรอก คริสต์ตัวจริง คือที่ว่านิพพานเป็นอัตตาถ้าพระถือธรรมะเป็นใหญ่ เคารพพระวินัย จะพบใครก็มีแต่ดี >>

No Comments

Comments are closed.